ข่าวประชาสัมพันธ์

กรมพัฒฯ เดินสายสร้างบรรทัดฐานการขอสินเชื่อรูปแบบใหม่ นำ “ไม้ยืนต้น” มาเป็นหลักประกันกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ 


22 กันยายน 2025, 10:54 น.

 

ปี 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระตุ้นเกษตรกร 4 นคร นำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจกว่า 800 ราย พร้อมสร้างบรรทัดฐานการขอสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่มีแค่ ‘ต้นไม้’ ก็สามารถต่อยอดกู้เงินไปลงทุนได้

 

 

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เดินสายสร้างบรรทัดฐานการขอสินเชื่อรูปแบบใหม่ ที่มี ‘ไม้ยืนต้น’ ก็สามารถต่อยอดนำไปกู้เงินจากสถาบันการเงินได้ ตลอดปี ‘68 ลงพื้นที่ 4 ภาค 4 นคร : นครสวรรค์ นครพนม นครนายก นครศรีธรรมราช สร้างความรู้และกระตุ้นเกษตรกรกว่า 800 ราย ให้เห็นความสำคัญ/ประโยชน์ของไม้ยืนต้น เตรียมความพร้อมนำไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ดีใจ!! เห็นเกษตรกรยิ้มกว้างมีทางออกด้านการเงินโดยใช้ต้นไม้ที่ปลูกบนที่ดินของตนเองมาแปลงเป็นเงินทุนต่อยอดทำธุรกิจหรือใช้สอยในชีวิตประจำวัน ดีใจขั้นกว่า!!! สนับสนุนและผลักดันให้เกษตรกรใช้ไม้ยืนต้นกู้เงินกับ ธ.ก.ส. สำเร็จเป็นรายแรกของ จ.นครศรีธรรมราช นับเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงที่ได้จากการทำงานอย่างหนักของกองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่แสดงให้เห็นว่าต้นไม้เปลี่ยนเป็นเงินทุนได้จริง และมีขั้นตอนการกู้เงินที่ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ทำให้เกษตรกร และ SME เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว สมตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจอย่างแท้จริง

 

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปี 2568 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้ความสำคัญกับโครงการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจมาเป็นลำดับต้น โดยได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาระบบจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจแบบ Host to Host และการส่งเสริมการใช้ไม้ยืนต้นเป็นหลักประกันทางธุรกิจ กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพัฒนาระบบรองรับการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันแบบ Host to Host เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรใช้ไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ ซึ่งถือเป็นปีที่กรมฯ ทำงานอย่างหนักเพื่อให้เกษตรกรและ SME สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้โดยง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมถึง สร้างบรรทัดฐานการขอสินเชื่อรูปแบบใหม่ที่มี ‘ไม้ยืนต้น’ ก็สามารถต่อยอดนำไปกู้เงินกับสถาบันการเงินได้ ซึ่งช่วยแก้เพนพ้อยท์การเข้าถึงแหล่งเงินทุนของเกษตรกร และ SME รายย่อยอย่างเป็นรูปธรรม และบรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจได้อย่างตรงจุดที่สุด

 

 

ตลอดการลงพื้นที่ 4 ภาค 4 นคร ประกอบด้วย จ.นครสวรรค์ นครพนม นครนายก และนครศรีธรรมราช กรมฯ ได้ร่วมกับ ธ.ก.ส. ได้ให้ความรู้แก่เกษตรกร รวมกว่า 800 ราย ได้ทราบถึงกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ที่เน้นการนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินโดยไม่ต้องตัดต้นไม้ขาย เป็นจุดมุ่งหมายหลักที่ต้องการให้เข้าใจถึงกระบวนการเข้าถึงสินเชื่อโดยมีต้นไม้เป็นสื่อกลาง มีการสาธิตประเมินมูลค่าต้นไม้ทำให้ทราบถึงมูลค่าในเบื้องต้น ไม่เพียงเท่านั้น ยังให้ความรู้เพิ่มเติมถึงคุณประโยชน์หรือมูลค่าเพิ่มของไม้ยืนต้นเรื่องอื่นๆ เช่น คาร์บอนเครดิต ซึ่งจะเป็นสินค้าอนาคตที่เป็นผลพลอยได้จากการปลูกไม้ยืนต้น และเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ เมื่อเกษตรกรเข้าใจถึงความสำคัญของต้นไม้อย่างถ่องแท้ก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากต้นไม้นั้นได้อย่างต่อเนื่อง ผนวกกับการใช้ประโยชน์จากกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ ก็จะยิ่งช่วยให้ไม้ยืนต้นที่ปลูกเป็นมากกว่าต้นไม้ที่ให้เพียงร่มเงาหรือผลิตออกซิเจนเท่านั้น แต่จะเป็นต้นไม้ที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินชีวิตให้มีความมั่นคงมากขึ้น

 

อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า ดีใจที่เห็นเกษตรกรเข้าใจถึงรายละเอียดและพร้อมใช้ประโยชน์จากกฎหมาย ว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ เพราะนั่นหมายถึง ทางออกด้านการเงินที่เป็นปัญหาหลักและปัญหาใหญ่ของเกษตรกรไทยในปัจจุบัน ทำให้ได้เห็นประโยชน์ของไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินของตนเองว่าสามารถนำมาแปลงเป็นเงินทุนต่อยอดทำธุรกิจหรือใช้สอยในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องหาหลักทรัพย์อื่นมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงินกับสถาบันการเงิน ‘ไม้ยืนต้น’ จึงเปรียบเสมือน ‘ทองคำ’ บนดินที่มีคุณค่าและพร้อมสร้างความมั่นคงในชีวิตให้แก่เกษตรกรในระยะยาว

 

 

นอกจากนี้ ผลสืบเนื่องจากการให้ความรู้เกษตรกรในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช นายสุมิตร ศรีวิสุทธิ์ เกษตรกรอำเภอถ้ำพรรณรา ได้มีการใช้ประโยชน์จากกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจทันที หลังจากที่ได้รับความรู้และรายละเอียดเกี่ยวกับกฎหมายฯ จากกรมฯ โดยนำไม้ยืนต้นที่ปลูกบนที่ดินของตนเอง จำนวน 136 ต้น ได้แก่ ต้นสักทอง 100 ต้น ต้นตะเคียนทอง 21 ต้น ต้นแดง 9 ต้น และต้นพะยูง 6 ต้น มาเป็นหลักประกันทางธุรกิจกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยกรมฯ ให้การสนับสนุนและส่งเสริมอย่างเต็มที่ ได้รับวงเงินสินเชื่อ 50,000 บาท (ราคาประเมิน 103,735 บาท) แสดงให้เห็นว่าไม้ยืนต้นสามารถเปลี่ยนเป็นเงินทุนได้จริง และมีขั้นตอนการกู้เงินที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอย่างที่คิด ซึ่งนายสุมิตร นับเป็นเกษตรกรรายแรกของ จ.นครศรีธรรมราช ที่ได้รับวงเงินสินเชื่อภายใต้กฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจ และเป็นตัวอย่างให้เกษตรกรรายอื่นที่ปลูกไม้ยืนต้นบนที่ดินของตนเองเกิดแรงบันดาลใจในการนำไม้ยืนต้นนั้นมาขอกู้เงินจากสถาบันการเงินเมื่อต้องการเงินลงทุนหรือนำไปใช้สอยในชีวิตประจำวัน และเมื่อเวลาผ่านไปก็สามารถนำไม้ยืนต้นที่มีการเจริญเติบโตมาขอสินเชื่อเพิ่มเติมได้ตามมูลค่าต้นไม้ที่เพิ่มสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ ภายหลังการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กับ ธ.ก.ส. พบว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2568 (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กันยายน 2568) มีเกษตรกรนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว จำนวน 30,247 ต้น วงเงินรวม 1,806,000 บาท โดยต้นไม้ที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เช่น ต้นสัก ตะเคียนทอง พะยูง แดง ยูคาลิปตัส ยางพารา เป็นต้น

 

 

สำหรับปีงบประมาณ 2569 กรมฯ พร้อมเดินหน้าลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจแก่เกษตรกร และ SME รายย่อย หรือหากหน่วยงานภาครัฐ / เอกชน หรือกลุ่มเกษตรกรต้องการให้จัดส่งวิทยากรเพื่อให้ความรู้ฯ เพิ่มเติม กรมฯ มีความพร้อมและยินดีเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถติดต่อได้ที่ กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0 2547 5048, Call Center 1570, e-mail : stro@dbd.go.th และ http://www.dbd.go.th

 

นับตั้งแต่ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจมีผลบังคับใช้ในปี 2561 จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 กันยายน 2568) มีเกษตรกร และ SME ทั่วประเทศนำไม้ยืนต้นมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจแล้ว 197,549 ต้น (316 สัญญา) วงเงินรวมกว่า 187 ล้านบาท ต้นไม้ที่นำมาเป็นหลักประกันทางธุรกิจ เช่น ต้นสัก ยาง มะฮอกกานี สะเดา ประดู่ป่า พะยูง พลวง มะม่วง เป็นต้น

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดข่าวประชาสัมพันธ์

เรื่องล่าสุด