กองทัพประกาศกฎอัยการศึก ต้องหวนรำลึก ถึงเหตุการณ์ตอนดึกของ 20 พฤษภาคม 57 ว่า นักการเมืองอย่าได้เหิมเกริมนัก เพราะอำนาจแท้จริงของประเทศนี้ คืออำนาจที่พระมหากษัตริย์ได้พระราชทานไว้แก่กองทัพนั้น
สิ่งที่นักการเมืองต้องสังวรณ์เอาไว้ว่า การดูแลรับผิดชอบความมั่นคงปลอดภัยของประเทศชาตินั้น แม้ดูเสมือนหนึ่งว่าเป็นอำนาจของรัฐบาลก็ตาม
แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นอำนาจโดยตรงของกองทัพ
เป็นอำนาจที่พระเจ้าอยู่หัวทรงไว้วางพระราชหฤทัย และพระราชทานให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกองทัพโดยเฉพาะ
นั่นคือ การพระราชทานพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่ สมัยสมบูรณาญาสิทธิราชคือในสมัยรัชกาลที่ 6 พระราชทานพระราชอำนาจในการประกาศกฎอัยการศึกให้แก่ฝ่ายทหาร ซึ่งมีอำนาจประกาศทั้งขอบเขตทั่วประเทศ และเฉพาะพื้นที่ และเมื่อได้ประกาศ กฎอัยการศึกแล้ว อำนาจทั้งหลาย ก็จะตกอยู่กับฝ่ายทหารในการที่จะดำเนินการประการใดก็ได้ โดยชอบด้วยกฎหมาย
และเมื่อเหตุ ที่ประกาศกฎอัยการศึกสิ้นสุดลง การยกเลิกการประกาศกฎอัยการศึกนั้น จะกระทำได้ก็แต่โดยพระบรมราชโองการ การแก้ไขปัญหาชายแดน ไทยกัมพูชาครั้งนี้ ราบรื่นเรียบร้อย ก็เพราะฝ่ายทหารได้ใช้พระราชอำนาจที่ได้รับพระราชทานนี้ประกาศกฎอัยการศึก เพื่อให้มีอำนาจปฏิบัติการ ได้ทันที โดยไม่มีอุปสรรคขัดขวางหรือถูกยื้อยุดจากฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นไปโดยเรียบร้อย
และควรเป็นบทเรียนให้ฝ่ายการเมืองได้สังวรณ์เอาไว้ว่า บรรยากาศในการประกาศกฎอัยการศึกครั้งนี้รวบรัดฉับพลัน อาจทำให้ต้องระลึกถึงเหตุการณ์ ประกาศกฎอัยการศึก ในตอนดึกของวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ว่านักการเมืองอย่าได้เหิมเกริม บ้าอำนาจมากนัก
บ้านเมืองนั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์ พระสยามเทวาธิราชมีจริง การดูแลรักษาเอกราชอธิปไตย และความปลอดภัยของชาติไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ส่วนบุคคลและเป็นเรื่องที่ทำเล่นไม่ได้
Cr. Paisal Puechmongkol