เครือข่ายเกษตรกรลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ร้องรัฐเร่งช่วยเหลือ หลังราคาตกต่ำ-ไม่มีจุดรับซื้อตามนโยบาย
วันที่ 5 สิงหาคม 2568 – เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไยจาก 8 จังหวัดภาคเหนือ ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเป็นรูปธรรม หลังราคาลำไยตกต่ำอย่างรุนแรง และจุดรับซื้อที่รัฐประกาศยังไม่สามารถดำเนินการได้จริง
สถานการณ์ลำไยในพื้นที่ภาคเหนือ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา มีผลผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดพร้อมกัน ส่งผลให้เกิดภาวะผลผลิตล้นตลาด ขณะเดียวกันโรงงานอบแห้งมีการกดราคารับซื้ออย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลำไยเกรด AA มีราคาต่ำกว่า 10 บาทต่อกิโลกรัม เช่น 9 บาท, 8 บาท, 7 บาท และบางพื้นที่เหลือเพียง 6 บาทเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าในบางพื้นที่ โรงงานอบแห้งถึงขั้นหยุดรับซื้อ ทำให้เกษตรกรได้รับผลกระทบอย่างหนัก
แม้เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จะได้แถลงผ่านสื่อกรมประชาสัมพันธ์ว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการพยุงราคาลำไย โดยร่วมมือกับสมาคมโรงงานอบลำไยอบแห้งภาคเหนือ รับซื้อลำไยรูดร่วงเกรด AA ในราคา 13 บาทต่อกิโลกรัม (รวมค่าบริหารจัดการ 3 บาท) และเกรด A ในราคาขั้นต่ำ 6 บาทต่อกิโลกรัม (สนับสนุนค่าบริหารจัดการ 2 บาท)
อย่างไรก็ตาม ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2568 เครือข่ายเกษตรกรเปิดเผยว่า ยังไม่มีจุดรับซื้อใดในพื้นที่ที่สามารถดำเนินการรับซื้อตามนโยบายภาครัฐที่ประกาศไว้ได้จริง ส่งผลให้สถานการณ์ความเดือดร้อนยังคงอยู่ และมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงมากขึ้น
เครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ จึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ ดังนี้
- เร่งรัดการดำเนินโครงการรับซื้อลำไยตามนโยบายที่ประกาศ ให้มีจุดรับซื้อที่ชัดเจนในพื้นที่ พร้อมตรวจสอบให้เกิดการปฏิบัติจริงโดยเร็วที่สุด
- กำหนดมาตรการช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรม อาทิ การประกันราคาผลผลิต การสนับสนุนเงินเยียวยา และมาตรการพักหนี้ดอกเบี้ยสำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
- ดูแลราคาลำไยให้เป็นธรรม เพื่อป้องกันการถูกกดราคาจากโรงงานหรือพ่อค้าคนกลาง
ทั้งนี้ เครือข่ายฯ วิงวอนให้รัฐบาลและผู้มีอำนาจบริหารประเทศลงพื้นที่รับฟังปัญหา และขับเคลื่อนนโยบายที่ได้ประกาศไว้ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรผู้ปลูกลำไยที่กำลังประสบวิกฤตขาดทุนอย่างรุนแรงในขณะนี้