ไฮไลท์

พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กห. แถลง ภายหลังการประชุม GBC ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 


24 ตุลาคม 2025, 10:11 น.

 

คำแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมว.กห. ภายหลังการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 วันที่ 23 ตุลาคม 2568 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย

 

 

วันนี้ผมได้มาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปหรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 2/2568 ร่วมกับฝ่ายกัมพูชา นำโดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมมาเลเซีย การประชุม GBC ในครั้งนี้ ประเทศไทยยังคงยืนหยัดในเงื่อนไขเดิม 4 ข้อ ได้แก่ 

(1) การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง 

(2) การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล 

(3) การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam และ 

(4) การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดนในจังหวัดสระแก้ว

 

ผลของการประชุมในวันนี้ ถือว่ามีความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยฝ่ายไทยได้ประสบความสำเร็จในการโน้มน้าวให้ฝ่ายกัมพูชายึดถือปฏิบัติในประเด็นเดิม แต่มีการลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น เพื่อให้หน่วยในพื้นที่สามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งผมจะขอชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน ดังนี้

 

ประเด็นแรก : 

การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง ทั้งสองฝ่าย ได้บรรลุข้อตกลงในการจัดทำข้อกำหนดเงื่อนไขของงาน หรือ TOR สำหรับคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT และได้มีการลงนามโดยผู้แทนของทั้งสองฝ่ายเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคณะ AOT จะมีหน้าที่สำคัญในการสังเกตและติดตามผลความคืบหน้าของการถอนอาวุธหนักของแต่ละฝ่ายออกจากพื้นที่ขัดแย้ง รวมถึงได้มีการกำหนดกรอบเวลาและเป้าหมายปลายทางในการถอนอาวุธเรียบร้อยแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan ที่ได้จัดทำร่วมกัน และมอบหมายให้แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ขับเคลื่อนแผนไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งขั้นต้นจะหารือกันเพิ่มเติมในวันที่ 25 ตุลาคมนี้

 

ทั้งนี้ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ขัดแย้ง มีความมุ่งหมายหลักเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เนื่องจากอาวุธของกัมพูชาส่วนใหญ่ เช่น จรวด BM-21 เป็นอาวุธที่มีอำนาจการทำลายเป็นวงกว้าง ยากแก่การควบคุมตำบลกระสุนตก จึงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน รวมถึงเป้าหมายที่มิใช่เป้าหมายทางทหาร เช่น บ้านเรือน ร้านค้า ไร่นา โรงเรียน และโรงพยาบาล เป็นต้น

 

ประเด็นที่สอง :

การเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ทั้งสองฝ่ายได้ประสบความสำเร็จในการจัดทำระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน หรือ SOP สำหรับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ทั้งในพื้นที่ที่มีการกำหนดเขตแดนชัดเจนแล้ว และพื้นที่ที่ทั้งสองฝ่ายยังเห็นไม่ตรงกัน หลังจากนี้ ชุดประสานของทั้งสองฝ่ายจะสามารถเริ่มปฏิบัติการเก็บกู้ได้ทันที ซึ่งที่ผ่านมาศูนย์ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิด หรือ TMAC ของฝ่ายไทย ไม่สามารถดำเนินการเก็บกู้ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากมักถูกขัดขวางจากฝ่ายกัมพูชาบ่อยครั้ง เมื่อเราเข้าไปใกล้พื้นที่ชายแดน

 

แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ที่ฝ่ายกัมพูชายอมที่จะนำประเด็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมาพูดคุยในรายละเอียดกันอย่างจริงจัง ทั้งนี้ การเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดนมีความมุ่งหมายเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดน ซึ่งฝ่ายไทยได้ยืนยันมาโดยตลอดว่าการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเป็นเรื่องสำคัญ ที่ต้องเร่งดำเนินการ และต้องไม่นำเรื่องเขตแดนมาเป็นข้อจำกัดแต่อย่างใด

 

ประเด็นที่สาม :

การปราบปรามขบวนการ Cyber Scam เรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราได้รับความร่วมมือมากขึ้นเป็นครั้งแรกจากฝ่ายกัมพูชา โดยหน่วยงานตำรวจของทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนปฏิบัติการ หรือ Action plan เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายจะจัดตั้งกำลังเฉพาะกิจร่วม หรือ Joint task force ภายในสองสัปดาห์ เพื่อเริ่มกวาดล้างแกนนำและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการ Cyber Scam ได้ต่อไป ซึ่งต้องยอมรับว่ามีขบวนการบางส่วนเดินทางไป-มา ระหว่างสองประเทศด้วยวิธีต่าง ๆ

 

นอกจากนี้ ได้ตกลงร่วมกันเกี่ยวกับขั้นตอนที่ชัดเจน ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร หลักฐานพยานเหยื่อที่ถูกหลอกลวงและผู้ต้องหา รวมถึงมาตรการคุ้มครองพยาน อันจะทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่าขบวนการ Cyber Scam เป็นภัยคุกคามที่สร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนได้ทุกคน ก่อให้เกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศไทย ภูมิภาคอาเซียน และพื้นที่อื่น ๆ ทั่วโลก ตามที่ปรากฏเป็นข่าวให้เห็นอยู่เป็นระยะ ๆ ดังนั้น แผนปฏิบัติการที่ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นนั้น จึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตำรวจของไทยและกัมพูชา ซึ่งอาจรวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของประเทศอื่น ๆ ที่มีประชาชนของตนตกเป็นเหยื่อของขบวนการ Cyber Scam ด้วย

 

และประเด็นสุดท้าย :

การจัดการพื้นที่หมู่บ้านชายแดน ในจังหวัดสระแก้ว ตามข้อมูลขั้นต้นที่ได้รับจากการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือ JBC ซึ่งนำโดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีผลลัพธ์เชิงบวก ที่จะสามารถทำให้หน่วยในพื้นที่นำไปปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะส่งเจ้าหน้าที่ของตนลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวเส้นที่แต่ละฝ่ายอ้างสิทธิ์ หรือ Boundary Claim โดยจะทำการสำรวจร่วมจากหลักเขต ที่ 42 ถึง 47 ช่วงบ้านหนองจานและบ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว

 

ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกอีกเช่นกัน ที่ฝ่ายกัมพูชายินยอมร่วมมือกับฝ่ายไทย ในการลงพื้นที่เดินสำรวจแนวเส้นอ้างสิทธิ์ และวางหมุดชั่วคราวที่แน่ชัดด้วยกัน อันจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมรับกับขอบเขตพื้นที่ที่เกิดขึ้น ตามผลการสำรวจและจะนำไปสู่การปรับการถือครองที่ดินของทั้งสองฝ่ายได้ต่อไป

 

ขอยืนยันว่าการวางหมุดชั่วคราวนี้ เป็นเพียงเพื่อการสำรวจเท่านั้น จะไม่กระทบต่อสิทธิของไทยในเรื่องเขตแดนทางบกตามกฎหมายระหว่างประเทศแต่อย่างใด

 

นอกจากนี้ ฝ่ายไทยจะเริ่มดำเนินการสร้างรั้วชายแดน ในบริเวณที่มีความชัดเจนของเส้นเขตแดนแล้ว โดยยืนยันว่ารั้วดังกล่าวจะอยู่ภายในเขตอธิปไตยของไทย เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน ตลอดจนเพื่อป้องกันภัยคุกคามข้ามแดนระหว่างทั้งสองประเทศ

 

ทั้งหมดตามที่กล่าวมานั้น นับเป็นความคืบหน้าอย่างมีนัยยสำคัญ ที่เกิดขึ้นจากการประชุม GBC ในครั้งนี้ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดหลายเรื่อง ที่เราจะต้องร่วมกันติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดต่อไป ฝ่ายไทยขอยืนยันว่าเราต้องการเห็นความคืบหน้าที่ชัดเจนในทุกเรื่อง ตามที่กล่าวไปแล้ว จึงจะพิจารณาการยุติความเป็นปรปักษ์ต่อกัน ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาได้แสดงความจริงใจในการปฏิบัติตามผลการประชุม GBC ในครั้งนี้ โดยเคร่งครัด เพื่อร่วมกันนำสันติสุขให้กลับคืนสู่ประชาชนของทั้งสองประเทศตลอดจนภูมิภาคอาเซียนในภาพรวม

 

ผมขอยืนยัน ในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหมว่า จะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งอธิปไตย ผลประโยชน์ของชาติและประชาชน โดยคำนึงถึงเกียรติภูมิของประเทศไทยเป็นสำคัญ

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดไฮไลท์

เรื่องล่าสุด