กรมทรัพย์สินทางปัญญา หารือ CMOs ต่างประเทศ เดินหน้ายกร่างกฎหมาย “จัดเก็บค่าลิขสิทธิ์” โปร่งใส เป็นธรรม มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทยสู่มาตรฐานสากล
กรมทรัพย์สินทางปัญญาเปิดเวทีหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกับหน่วยงานด้านการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และผู้แทนศิลปินนักสร้างสรรค์ ถึงแนวทางขับเคลื่อนนโยบายด้านการกำกับดูแลการจัดเก็บค่าตอบแทนการใช้งานลิขสิทธิ์ โดยมีเป้าหมายที่จะยกระดับการดำเนินงานขององค์กรบริหารลิขสิทธิ์ (Collective Management Organizations: CMOs) ของไทยให้โปร่งใส เป็นธรรม และได้มาตรฐาน ตอบโจทย์ Quick Big Win กระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งพัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบ ดูแลผู้ประกอบการทุกระดับให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งในยุคปัจจุบัน

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เผยภายหลังการประชุมหารือเชิงนโยบาย ร่วมกับ สมาพันธ์แห่งสมาคมผู้สร้างสรรค์และนักแต่งเพลงระหว่างประเทศ (The International Confederation of Societies of Authors and Composers: CISAC) และพันธมิตรผู้สร้างสรรค์ดนตรีแห่งเอเซียแปซิฟิก (Asia-Pacific Music Creators Alliance: APMA) ซึ่งมีผู้แทนจากองค์กรบริหารลิขสิทธิ์ หรือ CMOs ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อาทิ สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เข้าร่วม โดยในที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อผลักดันผลงานสร้างสรรค์ของศิลปินไทยสู่ตลาดสากลและส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทย พร้อมกันนี้ กรมฯ ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าประเทศไทยอยู่ระหว่างยกร่างกฎหมายการจัดเก็บค่าตอบแทนการใช้งานอันมีลิขสิทธิ์ เพื่อเป็นกฎหมายเฉพาะสำหรับใช้กำกับดูแลการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์อย่างโปร่งใสและเป็นธรรม รวมทั้งจัดระเบียบและปรับปรุงแนวทางบริหารจัดการสิทธิของ CMOs ไทยให้มีมาตรฐานสูงขึ้น อันเป็นการส่งเสริมการใช้งานลิขสิทธิ์อย่างถูกกฎหมาย และลดปัญหาการเกิดข้อพิพาทจากการใช้ประโยชน์งานลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ ผู้แทนจากสมาพันธ์องค์กรจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ระหว่างประเทศ (CISAC) และบริษัทต่างๆได้แสดงความชื่นชมต่อความมุ่งมั่นของกรมฯ ในการดำเนินดังกล่าว พร้อมสะท้อนแนวปฏิบัติสากลที่พบว่าประเทศต่างๆ ที่เป็นสมาชิก CISAC และ APMA เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย และมาเลเซีย มี CMOs ในประเทศไม่มาก เพียงหนึ่งถึงสองหน่วยต่อประเทศเท่านั้น แตกต่างจากประเทศไทยที่มี CMOs มากกว่า 10 หน่วย และแต่ละหน่วยมีแนวปฏิบัติและมาตรฐานในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ต่างกัน ส่งผลให้เกิดความซ้ำซ้อนและปัญหาต่อทั้งเจ้าของสิทธิและผู้ใช้ประโยชน์งานลิขสิทธิ์นั้น ซึ่งหากมีกฎหมายที่กำกับดูแลเรื่องดังกล่าวอย่างชัดเจน จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครองเจ้าของสิทธิ ลดภาระของผู้ประกอบการที่ต้องการใช้ประโยชน์ผลงานสร้างสรรค์ในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนลดโอกาสการใช้สิทธิในทางที่ไม่สุจริต

นอกจากนี้ ตัวแทนศิลปินผู้สร้างสรรค์ผลงานได้สะท้อนประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์งานลิขสิทธิ์ในเชิงพาณิชย์ เช่น กรณีการขายขาดลิขสิทธิ์ (Buyout) ให้ค่ายเพลง การตกลงค่าลิขสิทธิ์ระหว่างค่ายเพลงและศิลปิน พร้อมเสนอให้กรมฯ พิจารณามาตรการกำกับดูแลงานลิขสิทธิ์ อาทิ การกำหนดหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์จากงานดนตรีกรรมอย่างเหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรม เพื่อสร้างสมดุลให้กับทุกฝ่ายมากยิ่งขึ้น

ในโอกาสนี้ นางอรมนได้กล่าวขอบคุณทุกความเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้เข้าร่วมประชุม โดยยืนยันว่า กรมฯ พร้อมเปิดรับฟังมุมมองและข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน เพื่อนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์ไปใช้ประกอบการยกร่างกฎหมายให้มีความเหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องกับบริบทความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในแวดวงดนตรีอย่างแท้จริง อันเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยส่งเสริมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้เติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล

















