สธ.-ปคบ.ทลายโกดังเถื่อนลักลอบนําเข้าเครื่องสําอางจากต่างประเทศ ยึดของกลางกว่า 7 ล้านบาท

สืบเนื่องจาก อย.ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่มีฉลากภาษาไทย อย. จึงได้ส่งเรื่องร้องเรียนให้ บก.ปคบ. ทําการสืบสวนขยายผล พบว่าถูกส่งมาจากโกดังแห่งหนึ่ง ย่านบางบอน
ต่อมาวันนี้ (30 ตุลาคม 2568) กระทรวงสาธารณสุข โดย สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สนธิกําลังร่วมกับตํารวจกองกํากับการ 4 กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง โดย กองบังคับการปราบปรามการ กระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (กก.4 บก.ปคบ.) นําหมายค้นศาลแขวงบางบอน เข้าตรวจค้นโกดัง เลขที่ 10 ในพื้นที่ แขวงบางบอนใต้ เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร พบเป็นแหล่งพักและกระจายสินค้าประเภทเครื่องสําอาง ที่ลักลอบนําเข้ามาจากต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต จํานวนเกือบ 70,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 7 ล้านบาท

นางสาวจิตศ์ตราฎ์ หมีทองธนกรณ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา,นายวิน ธนพชรโภคิน ประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข,เปิดเผยว่า การปฏิบัติการครั้งนี้เกิดจากการติดตามเบาะแสจากการร้องเรียนของผู้บริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ กระทรวง สาธารณสุขจึงมอบหมายให้สํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เร่งดําเนินการ และขยายผลการตรวจสอบ อย่างรวดเร็ว เพื่อคุ้มครองสุขภาพของพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข “ปราบปราม โปร่งใส ปลอดภัย เพื่อสุขภาพคนไทยทุกมิติ”
จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตํารวจ บก.ปคบ. พบโกดังซึ่งเป็นแหล่งพักและกระจายสินค้าขนาดใหญ่ และพบของกลางผิดกฎหมาย จากการตรวจค้นพบผลิตภัณฑ์เครื่องสําอางลักลอบนําเข้าไม่ผ่านด่าน เครื่องสําอาง ไม่มีเลขจดแจ้ง และไม่แสดงฉลากภาษาไทย ได้แก่
1. ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมและย้อมสีผม จํานวน 5 รายการ รวม 37,718 ชิ้น เช่น ผลิตภัณฑ์บํารุงเส้นผม แชมพู และผลิตภัณฑ์ย้อมสีผม
2. ผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดและบํารุงผิวหน้า จํานวน 14 รายการ รวม 20,000 ชิ้น
3. ผลิตภัณฑ์มาส์คหน้าบํารุงผิว จํานวน 1 รายการ รวม 10,000 ชิ้น
4. ผ้าอนามัย จํานวน 4 รายการ รวม 1,368 ชิ้น
รวมทั้งสิ้น 69,086 ชิ้น มูลค่ารวมกว่า 7 ล้านบาท
ปฏิบัติการในครั้งนี้เป็นการยืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะไม่ผ่อนปรน ต่อผู้ที่กระทําผิดกฎหมาย เราจะดําเนินการตรวจสอบและติดตามอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทําผิดซ้ํา จะดําเนินคดีในสถานหนักที่สุด เพื่อให้ผู้ประกอบการตระหนักและปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

เภสัชกรหญิงสุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ขอขอบคุณ กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (บชก.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครอง ผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ที่ขยายผลและที่เข้าร่วมตรวจค้นสามารถตรวจยึดเครื่องสําอางที่ผิดกฎหมายได้จํานวนมาก เบื้องต้นพบการกระทําความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องสําอาง พ.ศ. 2558 ฐานนําเข้าและขายเครื่องสําอางที่ไม่จดแจ้ง ไม่มีฉลากภาษาไทยและแสดงข้อความไม่ตรงกับข้อเท็จจริง และนําเข้าเครื่องสําอางโดยไม่ผ่านด่าน อย. มีโทษสูงสุด จําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจําท้ังปรับ จึงขอเตือนโกดังและร้านค้าทุกแห่งที่ลักลอบขายผลิตภัณฑ์ อย. และ ปคบ. จะดําเนินการกวาดล้าง แหล่งลักลอบนําเข้าและขายผลิตภัณฑ์สุขภาพผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องและจะดําเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด สําหรับประชาชนหากพบหรือได้รับสินค้าที่ไม่มีฉลากภาษาไทย หรือเลข อย. ขอให้ส่งคืนร้านค้าและแจ้งเบาะแส ผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยมาที่สายด่วน อย. 1556 และก่อนตัดสินใจซื้อทุกครั้ง สามารถตรวจสอบข้อมูลการอนุญาต ผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ อย. http://www.fda.moph.go.th และหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัยสามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน อย. 1556 หรือผ่าน Email: 1556@fda.moph.go.th หรือ Line: @FDAThai, หรือ Facebook: FDAThai หรือ ตู้ ปณ. 1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ

พล.ต.ท.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย ผบช.ก กล่าวฝากความห่วงใยมายังพี่น้องประชาชนว่าระมัดระวัง และไตร่ตรองให้รอบคอบ ก่อนซื้อผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเบื้องต้นอาจสังเกตจากฉลากฉลาก และบรรจุภัณฑ์ที่เป็นภาษาไทย โดยสามารถตรวจสอบเลขจดแจ้งจากสํานักคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อีกทั้งควรเลือกซื้อจาก แหล่งที่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น เครื่องสําอาง อาหารเสริม และยา ที่ถูกเกินกว่าปกติ ฉลากไม่ถูกต้องครบถ้วน หรือโฆษณาอวดอ้างผลที่เกินจริง ให้ระลึกไว้เสมอว่าท่านกําลังเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อ การโฆษณาและได้ของปลอม ของไม่มีคุณภาพ หรือนําเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องใช้แล้วอาจเกิดอาการแพ้ และขอเน้นย้ํา กับผู้จําหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพทั้งหลายว่าอย่านําสินค้าที่ผิดกฎหมายมาจําหน่ายหรือหลอกลวงผู้บริโภคโดยเด็ดขาด ทั้งนี้หากพบเห็นการกระทําความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใด สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา




 
 
		 





 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		
 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		
 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		



 
	


