สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันจันทร์ที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2568
“ควันหลง” ตัวเลขความเสียหาย ชีวิต ทรัพย์สิน สภาพเศรษฐกิจ “พื้นที่หาดใหญ่” นับหมื่นล้าน ยังประเมินไม่เสร็จสิ้น เสียงสะท้อนยังก้องกังวาน ถึง “ผู้บริหาร” ที่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้ ผ่านการวิพากย์วิจารณ์ “การบริหารภัยพิบัติที่ล้มเหลว!”..จากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ฝ่ายปฏิบัติในพื้นที่ ไม่รู้จะฟังคำสั่งจากหน่วยงานใด “เพราะซํ้าซ้อนสับสน !” มีผู้บัญชาการ 3 คนในวิกฤตเดียว..การอพยพไร้ปลายทาง ไม่มีระบบรวมศูนย์…. 000

ปัญหา “แผนเยียวยาฟื้นฟู” เป็นอีกความท้าทายรัฐบาลว่า “จะฟื้นคะแนนนิยม” ได้มากน้อยแค่ไหน ?… ช่วงรอยต่อจากหน่วยกู้ภัย และเรื่อง “จัดการศพ” ผู้เสียชีวิต ที่นับวัน “นํ้าลดศพโผล่ !” มากขึ้น… กว่าสถานการณ์ เข้ารูปเข้ารอย ต้องใช้ระยะเวลา “ปรับโหมดอารมณ์ผู้คน” อาจกู้สถานะ แก้เกม “ความศรัทธา” พลิกฟื้นกลับมาได้บ้าง .. ซึ่งยากมาก… 000
“ดูไม่จืดจริงๆ !” หลังนํ้าลด สภาพที่ปรากฏ “หาดใหญ่” ไม่ต่างจากเมือง ที่ผ่านสมรภูมิสงคราม มาหมาดๆ… ความยับเยินอับปาง ปรากฏ หดหู่ อนาถนัก !!…. 000

สภาพดังกล่าว สะท้อนถึง “ภาวะผู้นำ” ที่แสดง “ภาพจำ” ออกมา ยุค “แพทองธาร ” และนายกฯ “อนุทิน” ลงพื้นที่ ยามวิกฤติ แสดงบทบาทประเพณี “ผัดข้าว” โชว์สื่อฯ จึงแทบไม่ต่างกัน.. ที่ห่างชั้นกันบ้างคือคำมั่น “ปักหลักพักค้าง” ในพื้นที่ เพื่อฟื้นฟู เยียวยาให้สถานการณ์ คลี่คลาย…แต่นาทีนี้ ไม่มีหลักประกัน “คะแนนเสียง” ในพื้นที่สงขลา เพราะได้หายไปกับ “กระแสนํ้าเชี่ยว!” ไกลลิบ !…000

ถามกันว่า งบประมาณบริหารจัดการนํ้า “แสนกว่าล้านบาท” หายไปไหน ? อยู่ในมือใครในส่วนกลาง… ปี 2568 “จังหวัดสงขลา” ได้งบฯ มาก เป็นอันดับ 4 ของประเทศ เอาไปทำอะไรหมด ? …“นายกแป้น” นายกเทศบาลนครหาดใหญ่ ให้สัมภาษณ์สื่อ วันวิบัติภัย “เทศบาล มีเรือ เก่าไม่ถึง 5 ลำ !”… 000 จากนี้ไป ต่อให้นํ้าลดเข้าสู่ภาวะปกติ “ประชาชน” ก็ยังเดือดร้อน จากการ “ฟื้นฟูเยียวยา” อีกคำรบ ! การเบิกจ่ายงบประมาณ จะมี “มือดี กล้าหาญชาญชัย” เล่นแร่ แปรธาตุ อีกหรือไม่ ?….000

สกานการณ์ทางการเมืองสายใต้ ตอนแรก “พรรคภูมิใจไทย” มั่นใจ จะ “ปักธง” ได้หลายเขต.. หลังวิกฤตินํ้าท่วมหาดใหญ่ “นิด้าโพล” สำรวจพบว่า “นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ คนใหม่ มีคะแนนสูงสุด ในบรรดาหัวหน้าพรรคการเมือง ที่ประชาชน “กลุ่มตัวอย่าง” สนับสนุน พื้นที่ประสบอุทกภัย เท่านั้น….000
อิทธิพลของ “ผู้ต้องขังจีนเทา”…เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ล้วนแต่เป็นสมุนบริวาร ” เสอจื้อเจียง “ อดีตนักโทษ เจ้าพ่อจีนเทา “กระบวนการใต้ดิน 14 เค” ฝั่งเมียนม่า ทั้งสิ้น !… เมื่อ “เสอ จื้อเจียง” ลูกพี่ใหญ่ ถูกส่งตัว “ให้รัฐบาลจีน”.. บรรดาเครือข่ายบริวาร “ยังมีอิทธิพล” แทนลูกพี่ ทุกประการ.. “ด้วยอำนาจเงินดำ” บารมี มหาศาลยังใช้ “ผีโม่แป้ง” ได้เป็นปกติ… 000 “ส่วนชื่อ-แซ่” เป็นใครบ้างนั้น ว่ากันว่า.. แม้แต่ “ร้านอาหารสุดหรู” หน้าเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ “ที่รับส่งอาหารแพง” ให้ประจำ ย่อมรู้จักดี ถ้วนทั่ว ….000

“ไม่รู้กินดีหมี ดีมังกร มาจากไหน ?” .. พอตั้งหลักได้ “ทิ้งบอมบ์” ทันที “มานพ ชมชื่น” อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ พิเศษกรุงเทพฯ “ไม่ยอมตายเดี่ยว !” มอบหมาย ทนายความ ยื่น “ดีเอสไอ” ส่ง ป.ป.ช. ให้สอบเสันทางการเงิน “ปลัดกระทรวงยุติธรรม, อธิบดีกรมราชทัณฑ์, รองอธิบดี” ยาวเหยียด…หลังจากตนเอง ถูกคำสั่ง “ให้ออกจากราชการเอาไว้ก่อน” พร้อมเลขา คู่ใจ ที่หอบหิ้ว มาจากอาณาจักร “ปากนํ้า”… 000

“คุกบำเรอกาม” มีการ “แทงข้างหลัง ” กันจริงหรือไม่ ? เรื่องราว ฉาวโฉ่ จะเริ่มโผล่ ออกมาเป็นระยะ หรือเป็นรายการ “ตัดตอน” ที่สลับซับซ้อน หากเป็นการ ร้องเรียน เชื่อกันว่า ไม่สามารถ หลุดรอด ออกมาได้ เพราะมีการตรวจสอบ “เซ็นเซอร์” กันละเอียดยิบ !… 000 เหตุการณ์ “ซีรี่ส์” ระทึก เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต้องถูกเปิดเผยตัวละคร ออกมาเป็นลำดับ หลัง ดีเอสไอ. สอบสวน เสร็จสิ้น เพียงแต่ กระแส “นํ้าท่วมใต้” ชิงพื้นที่ข่าวไปชั่วคราว ผลสะเทือน “ราชทัณฑ์” ต้องติดตามดูกัน เป็นตอนๆ อีกไม่ช้า… 000


















