การเมือง

มาศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด (ตอน 9)


5 สิงหาคม 2025, 9:52 น.

 

มาศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด (ตอน 9)

โดยเรืองวิทยาคม

 

 

9. ดินฟ้าอากาศ

(1.) ซุนวูระบุความหมายของดินฟ้าอากาศว่า คือกลางวันกลางคืน ความร้อนความหนาว ความผันแปรแห่งการอากาศ 

 

ความหมายของซุนวูนั้น ย่อมหมายความรวมถึง ลมฝนว่าจะมีกระแสลมมาจากทิศทางใดไปยังทิศทางใด ซึ่งโดยปกติ จะพัดมาจากด้านตะวันออกไปยังด้านตะวันตก 3 ทิศทาง และพัดจากด้านตะวันตกไปยังด้านตะวันออก 3 ทิศทางเช่นเดียวกัน ลมที่พัดจากตะวันตกไปยังตะวันออกนั้นมี 3 ทิศทาง จากทิศเฉียง 2 ทาง ทิศกลาง 1 ทาง มีชื่อเฉพาะเรียกว่าลมพลัดหลวง ลมพลัดกลางและลมพลัดยา

 

ส่วนลมที่พัดจากทิศตะวันออกไปตะวันตกนั้น ที่พัดจากทิศอีสานและ ทิศตะวันออกเรียกว่าลมนอก ที่พัดจากทิศอาคเนย์เรียกว่าลมอาร์คเณย์หรือลมสลาตัน ลมแต่ละชนิดนั้นพัด ด้วยความเร็วความแรงอย่างไร ในวันเวลาใด รวมทั้งเมฆหมอก ความใสสว่างแห่งท้องฟ้าอากาศ และความมืดมัว ด้วยเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้ความสว่างในเวลากลางวันเปลี่ยนแปลงไป หรือทำให้ความมืดในเวลากลางคืนเปลี่ยนแปลงไป และยังครอบคลุมถึงความเปียกชื้นและความแห้งของพื้นดินด้วย

 

ในบางสงครามนั้น ดินฟ้าอากาศ ในความหมายของซุนวูนี้ มีความหมายถึงขั้นชี้ขาดแพ้ชนะของสงคราม ดังตัวอย่าง เช่น สงครามเซ็กเพ็กหรือสงครามผาแดงในยุคสามก๊ก เมื่อขงเบ้ง จิวยี่ วางกลอุบายให้กองทัพโจโฉนำกองทัพเรือทั้งหลายมาผูกโยงไว้ด้วยกันอย่างแน่นหนา โดยมีแผนจะใช้ไฟเผากองทัพเรือของโจโฉเสีย ปรากฏว่าจิวยี่ได้เห็นปรากฏการณ์ของดินฟ้าอากาศว่า ณ เวลานั้น กระแสลมพัดจากทิศด้านกองทัพของเมืองกังตั๋งไปทางทิศด้านกองทัพของโจโฉ คือลมพลัดหลวงไม่สามารถใช้เพลิงเผากองทัพโจโฉได้ เพราะกระแสลมจะไม่พัดไปทางด้านโจโฉ แต่ไฟจะกลับมาไหม้ด้านจิวยี่เสียเอง 

 

จึงทำให้จิวยี่ตกใจเพราะรู้ว่ายามศึกกระชั้นเข้ามาเช่นนี้ และไม่สามารถเผากองทัพโจโฉได้ หายนะก็มาถึง

 

ชาวกังตั๋งเป็นมั่นคง จึงกลัดกลุ้มแน่นขึ้นในอก รากเลือด ล้มลง ในขณะที่กระแสลมพัดชายธงประจำตัวแม่ทัพ ทำให้ปลายธงกระทบหน้าจิวยี่ หลังจากนั้นจิวยี่ก็ป่วยหนัก

 

โลซกที่ปรึกษาเมืองกังตั๋งจึงไปปรารภความทุกข์นี้ให้ขงเบ้งฟัง ซึ่งขณะนั้นขงเบ้งให้คาดคำนวณไว้ก่อนแล้วถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น รวมทั้งวันเวลาที่กระแสลมจะเปลี่ยนแปลงไปยังทิศตรงกันข้าม คือจะมีลมสลาตันพัดมา จึงอาสาไปรักษาโรคให้จิวยี่ หลักฐานสำคัญที่แสดงว่าขงเบ้งคำนวณดินฟ้าอากาศไว้ก่อนแล้ว ได้แก่ เมื่อครั้งที่จิวยี่หลอกให้เล่าปี่มาเยี่ยม เพื่อหวังจะฆ่าเสีย แต่เล่าปี่พากวนอูมาด้วย จิวยี่จึงไม่กล้าลงมือฆ่าเล่าปี่ ในขากลับเล่าปี่ได้พบกับขงเบ้ง ณ เวลานั้น ขงเบ้งได้นัดวันเวลาให้เล่าปี่ สั่งให้จูล่ง นำเรือมารอรับขงเบ้งกลับเมืองกังแฮ โดยให้จอดเรือรอที่ริมน้ำใกล้เขาลําปินสาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่าขงเบ้งคำนวณวันเวลาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงกระแสลมไว้ชัดเจนแล้ว จึงนัดหมายทำการดังกล่าว

 

ครั้นโลซกพาขงเบ้งไปเยี่ยมจิวยี่ หลังจากทักทายกันแล้ว ขงเบ้งก็พูดจา สะกิดใจจิวยี่ว่า อันโรคภัยของคนเรานั้น เอาแน่นอนไม่ได้ ขึ้นอยู่กับความผันแปรของลมในร่างกายนี้ จิวยี่ฟังก็เฉลียวใจว่าขงเบ้งรู้ต้นเหตุที่ตัวเป็นไป จึงขอให้ขงเบ้งรักษาให้ ขงเบ้งจึงเขียนเทียบสั่งยามอบให้แก่จิวยี่ เป็นเนื้อความว่า “การทั้งปวงเตรียมไว้พร้อมแล้ว คงเหลือแต่ลมสลาตัน” คือ “ลมที่จะพัดจากด้านกองทัพจิวยี่ไปยังกองทัพโจโฉ” เมื่อลมพัดมาแล้วโรคท่านจะหาย จิวยี่ได้เห็นเทียบยาก็ตกใจ รู้ว่าเมื่อขงเบ้งรู้สมมติฐานก็น่าจะรู้วิธีรักษาโรค จึงคุกเข่าขอให้ขงเบ้งช่วย ขงเบ้งจึงอาสาเรียกลมสลาตัน ให้กองทัพจิวยี่เป็นเวลา 3 วัน และให้ตั้งการพิธีเรียกลมที่เชิงเขาลําปินสาน ใกล้กับพื้นที่ที่นัดให้จูล่งนำเรือมารับ จิวยี่มีความยินดีโรคก็หายเป็นปลิดทิ้ง และไปเตรียมตัวจัดแจงกองทัพ ครั้งถึงเวลากำหนดลมสลาตันก็พัดมา

 

จิวยี่ก็มีความยินดีเป็นอันมาก แต่ใจหนึ่งก็ประหวั่นว่าขงเบ้งมีฤทธิ์เดชมากขนาดนี้ จะปล่อยไว้ไม่ได้จะเป็นอันตรายแก่เมืองกังตั๋ง จึงสั่งให้ทหารไปจับตัวขงเบ้งฆ่าเสีย แต่เมื่อทหารไปถึงก็ไม่พบตัวขงเบ้งแล้ว เพราะขงเบ้งหนีไปลงเรือที่จูล่งมารอรับไว้ ออกเรือกลับเมืองกังแฮแล้ว 

 

เมื่อกระแสลมพัดมาถูกทางเช่นนี้ จิวยี่จึงประสบความสำเร็จตามกลอุบาย ใช้เพลิงเผากองทัพโจโฉจนวายวอด ทำให้หลังจากนั้น กองทัพโจโฉไม่สามารถลงใต้อีกเลย

 

นี่คือ เรื่องของดินฟ้าอากาศที่สามารถยกขึ้นเป็นตัวอย่าง ดังนั้น ผู้รับผิดชอบการสงครามจึงต้องฝึกฝนเรียนรู้ให้สันทัดในเรื่องดินฟ้าอากาศ ว่าฤดูกาลไหน ดินฟ้าอากาศเป็นอย่างไร กระแสลมมีกี่ทิศทาง แต่ละทิศทางกระแสลมพัดอย่างไร แรงกล้าขนาดไหน และเกิดขึ้นในช่วงใดบ้าง ดาวเดือน ดินฟ้าอากาศ ความมืด ความสว่าง  ความร้อน ความหนาว ย่อมมีผลต่อสถานการณ์การทำสงครามทั้งสิ้น ใครสามารถใช้ประโยชน์จากดินฟ้าอากาศได้ดีกว่ากัน ก็ย่อมได้เปรียบในการทำสงคราม กระทั่งสามารถบันดาลแพ้ชนะสงครามได้ด้วย

 

ขงเบ้งเคยสรรเสริญ การใช้ลมฟ้าอากาศนี้กับโลซกว่า เป็นพลังจักรวาล ที่ใครใช้ใด้แล้ว ก็เหมือนใช้ทหารร้อยหมื่น รบที่ไหนก็ชนะที่นั่น

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด