ตำรวจจราจรร่วมนำทางภารกิจ “หัวใจติดปีก” นายกรัฐมนตรีบินด่วนส่งมอบ “หัวใจดวงที่ 143” ต่อชีวิตด้วยหัวใจของผู้นำ
วันที่ 5 ตุลาคม 2568 พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 18.54 น. ที่ผ่านมา ตำรวจทางหลวง และตำรวจจราจร สภ.เมืองอุดรธานี เร่งนำทางอำนวยความสะดวกรถส่งอวัยวะ “หัวใจดวงที่ 143” จากโรงพยาบาลอุดรธานี ไปยังสนามบินอุดรธานี เพื่อส่งมอบให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งขับเครื่องบินส่วนตัวนำอวัยวะหัวใจ จาก จ.อุดรธานี มายังสนามบินดอนเมือง ในภารกิจ “หัวใจติดปีก” โดยเครื่องบินได้ออกเดินทางจาก จ.อุดรธานี ในเวลา 19.15 น.
เมื่อเครื่องบินส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีถึงสนามบินดอนเมืองในเวลา 20.03 น. นายกรัฐมนตรีได้เป็นผู้นำกล่องบรรจุอวัยวะหัวใจขึ้นรถตู้ของทางสนามบินมาถึงยังอาคารผู้โดยสารในเวลา 20.11 น. ส่งมอบให้กับ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุณภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร รับช่วงต่อพร้อมนำทีมตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ เปิดทางจราจรนำอวัยวะหัวใจส่งผู้รับบริจาค ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ให้ทันเวลา ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองในเวลา 20.13 น. โดย ถึง รพ.จุฬาฯ ที่หมายในเวลา 20.28 น. ใช้เวลา 15 นาที จากสนามบินดอนเมืองถึงโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ภารกิจลุล่วง หัวใจดวงที่ 143 เต้นอีกครั้ง สมเจตนารมณ์ผู้บริจาคอวัยวะ ต่อลมหายใจให้เพื่อนมนุษย์
ภารกิจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “หัวใจติดปีก” ที่นายกรัฐมนตรีดำเนินการด้วยความสมัครใจและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557 โดยได้อาสาขับเครื่องบินส่วนตัวรับ-ส่งทีมแพทย์ในภารกิจลักษณะนี้มาแล้วกว่า 80 เที่ยวบิน ช่วยต่อชีวิตผู้ป่วยกว่า 200 รายทั่วประเทศ โดยมีตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ สังกัดกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมสนับสนุนภารกิจอย่างใกล้ชิด ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกเส้นทางคุ้มกัน “หัวใจแห่งชีวิต” ให้ภารกิจลุล่วง อวัยวะให้ถึงมือทีมแพทย์อย่างปลอดภัย และรวดเร็วที่สุด
ภารกิจในครั้งนี้ ถือเป็น “หัวใจดวงที่ 143” ซึ่งมีความหมายพิเศษในตัวเลข “143” ที่สื่อถึงคำว่า I (1) Love (4) You (3) ในภาษาสากล หมายถึง “การมอบหัวใจด้วยความรัก” จากผู้บริจาคสู่ผู้รับ และจากหัวใจของผู้นำสู่ประชาชนทุกคน
ภารกิจ “หัวใจติดปีก” จึงไม่เพียงสะท้อนถึงความทุ่มเทของทีมแพทย์และหน่วยงานสาธารณสุข แต่ยังสะท้อนถึงความร่วมแรงร่วมใจของตำรวจทางหลวง ตำรวจจราจรในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ ตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบงันแต่ทรงคุณค่า รวมถึงประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนที่ร่วมมือเปิดทางให้รถฉุกเฉิน เพื่อให้ “หัวใจทุกดวง” เดินทางถึงปลายทางด้วยความปลอดภัย
ทั้งนี้ นอกจากอวัยวะหัวใจแล้ว ยังมีอวัยวะไต ที่ทีมแพทย์ผ่าออกมาจากร่างกายของผู้บริจาค พร้อมกันในคราวนี้ด้วย และทีมแพทย์นำส่งขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของท่านนายกรัฐมนตรี มาในคราวเดียวกัน และตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ได้นำส่งยังโรงพยาบาจุฬาลงกรณ์ ให้กับผู้รอรับบริจาคอวัยวะไต ได้อีก 1 ราย อีกด้วย