สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันศุกร์ที่ 28 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568
สถานการณ์หลัง “นํ้าลด” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่… มีคำถามมากมาย.. กระแสวิพากย์วิจารณ์กระหึ่ม “ต้องมีการสังคายนา” กันอย่างมโหฬาร.. ถึงการทำงาน อย่างไร้ระบบ “ของผู้บริหารท้องถิ่น” ผู้บริหารจังหวัด ขาดหลักวิชาการ ไม่มีการประเมิน, วิเคราะห์ แผนรับมือ ฯลฯ “ทำให้หาดใหญ่ กลายเป็น นรกบนผืนนํ้า !” เพราะการทำงานล่าช้า ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปยัง “รัฐบาล” ประเมินสถานการณ์ผิดพลาด บริหาร วิบัติภัย สับสน อลหม่าน…. 000
การแจ้งเตือน สื่อสาร ขนของ การอพยพคนในเขตเทศบาล ท่ามกลางภาวะวิกฤติ “ล้มเหลวสิ้นเชิง !”…มวลนํ้าไหลบ่าเข้าโจมตีพื้นที่ ทุกทิศทาง รุนแรง รวดเร็ว ผู้บริหารเทศบาลนครหาดใหญ่ มั่นใจในตัวตนว่า “เอาอยู่ !” ทัวร์ จึงกระหน่ำลงแบบไม่ยั้ง !…000 ภัยพิบัติหนนี้ “เกินเยียวยาจริงๆ !” ขณะทุกอย่างอยู่ในภาวะการฟื้นฟู… โลกโชเซียล ฉายภาพ “นํ้าลดตอผุด !” สภาพความเสียหาย เหลือแต่ซาก ปรักหักพัง เหมือนถูก “สึนามิ” สาดซัด ระเนระนาด ทุกพื้นที่ “เคสดำ” สภาพศพลอยนํ้า ไม่รู้อีกกี่ศพ หาไม่พบ สูญเสียเกินบรรยาย…. 000 ที่พูดกันมากคือ “เขต 8 หาดใหญ่ !” พื้นที่ต้องห้าม คืออะไร ?… แหล่งรวมโซนอันตราย ชุมชนย่อย ผู้คน “อาศัยหนาแน่น” จิตอาสา หน่วยกู้ภัยหวาดผวา ไม่กล้าเข้า ต้องใช้ “หน่วยซีล” กองทัพเรือ บุกเข้าตอนดึก… ว่ากันว่า เป็นแหล่งดำมืด ของ “ดงอาชญากรรม” รวมสิ่งผิดกฏหมาย, ของหนีภาษี, ยาเสพติด แหล่งบันเทิง นักเลงอันธพาล บรรดานักเจ็ตสกี ตั้งฉายาว่า “แดนเถื่อน !“…ที่ผู้กำกับการ ตำรวจภูธรหาดใหญ่..พลอยฟ้า พลอยฝน “โดนย้าย” ไปด้วย หรือไม่ ?… 000
จากนี้ไป ต้องบังคับใช้ “กฏหมายผังเมือง” อย่างเข้มข้น รวมทั้ง โครงการ “อสังหาริมทรัพย์” หมู่บ้านจัดสรร ขวางทางนํ้า… ภัยพิบัติครั้งนี้ ไม่ใช่ ธรรมชาติ อย่างเดียว.. ปัญหาทางกฏหมาย “โครงสร้างอำนาจรัฐ” ถูกปล่อยปละละเลย มานานปี “สะท้อนภาวะผู้นำ” ต้องปฏิรูป อย่างจริงจังเสียที !….000 หลายประเทศ มีการป้องกัน เตรียมรับมือ ภัยพิบัติ ทั่วโลกอย่างมืออาชีพ.. ประเทศไทย เห็นที “ต้องมีกระทรวงทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ” เป็นแม่นมั่น…ที่ควรตระหนักอย่างยิ่ง คือ “ปัญหาเชิงโครงสร้าง ระบบราชการ ระบบการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ของรัฐบาล..อย่าให้ต้อถึงขั้น “เฟลสเตรท!” ไร้ซึ่งศรัทธา..มีอำนาจแต่บริหารไม่ได้ ก็แล้วกัน… 000
การบ้าน การเมืองยังวุ่นวายไม่หยุดหย่อน… “พรรคประชาชน” คาดหวังเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ยามนี้ “เป็นแค่ความฝัน !”… เพราะยากที่จะฝ่าฟันถึง “250 เสียง” แม้พยายามเน้น เรื่อง “สแกมเมอร์ ทุนสีเทา” และชูประเด็นเศรษฐกิจ… แต่หากเทียบกับ กระแส “ชาตินิยม” ปัญหาชายแดนไทย – กัมพูชา สองเรื่องหลัง “ย่อมมีพลังมากกว่า”… 000 ยิ่งชื่อ แคนดิเดต นายกรัฐมนตรี กำลัง “เจอชนักปักหลัง มาตรา 112” เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐาน จริยธรรม หรือไม่ ?… ทั้งหัวหน้าเท้ง “ณัฐพงษ์ และ นางสาวศิริกัญญา” … หาก “ป.ป.ช.” ยื่นคำร้องศาลฏีกา ทั้งสองต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ทันที ..ข่าวว่า เดือนธันวานี้ “จะชี้ชะตา !”… ขณะที่ “พรรคสีนํ้าเงิน” โกยกระแส อย่างก้าวกระโดด..ทำให้เป้าหมาย “พรรคส้ม” เจออุปสรรค เป้าหมายชัก “เลือนลาง”… มัวแต่สาละวน “แก้รัฐธรรมนูญ” ขณะชาวบ้าน รับมือผลสะเทือน ภัยพิบัติ หนักหนาสากรรจ์ “คะแนนพรรค” จึงหายไปกับสายนํ้า เช่นกัน….000
“พรรคเพื่อไทย” ยังอยู่ในภาวะ ระสํ่าหนัก… เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นกับ “ทักษิณ” 2 คดีภายในวันเดียว ส่งผลกระทบ ต่ออนาคตพรรค อย่างรุนแรง… เมื่อจิตวิญญาณพรรค “กลายเป็นตัวประกัน” เผชิญวิบากกรรม หนักหน่วง การเลือกตั้ง ที่จะถึงจึง “กระอัก!” คาดว่า แพ้หนักกว่าที่เคย…. 000
ย้อนกลับไป ตอนตัดสินใจ กลับสู่ประเทศไทย “ทักษิณ” มีความเชื่อมั่นเต็มร้อย ไม่คาดว่าตน และพรรค ต้องเผชิญกับ “มรสุมวิกฤติ” สาหัส สากรรจ์ขนาดนี้.. “นายใหญ่” โดนสกัด สุดลิ่มทิ่มประตู อยู่ในสถานการณ์ “ถูกบล็อค” ทุกทิศทาง.. ปิดทางถอย ไม่มีประนีประนอม กะถึงขั้น “สลายพรรค” กันทีเดียว…000 “มันจบแล้วครับนาย ! ยังน้อยไป..ตัดไผ่ไม่ไว้หน่อ!..โหดกว่า ปล่อยเสือ เข้าป่า เป็นไหน ๆ !”…000 ปฏิบัติการกวาด “ทักษิณ” หนนี้ ส่งผลสะเทือน ต่อสมาชิกพรรค อย่างรุนแรง มรสุมสาดซัด ประเด ประดัง สู่ผู้นำจิตวิญญาณ ต่อเนื่อง.. จะแปรเปลี่ยน เป็นคะ แนนสงสาร ได้มากน้อย แค่ไหน ? ต้องรอดู ถึงวัน เข้าคูหา “กาบัตรเลือกตั้ง !”….000
