การเมือง

เลือก “อนุทิน” เป็นนายกฯ มีความชอบธรรมมากกว่าเลือก “ชัยเกษม – พล.อ.ประยุทธ”


13 ธันวาคม 2025, 9:07 น.

 

เลือก “อนุทิน” เป็นนายกฯ มีความชอบธรรมมากกว่าเลือก “ชัยเกษม – พล.อ.ประยุทธ”

 

 

ไม่ต้องขอโทษใคร เพราะไม่มีความผิดใดๆ

 

ในการที่พรรคประชาชนลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกรัฐมนตรี

 

เพราะเป็นตัวเลือกที่มีความชอบธรรมมากกว่านายชัยเกษม นิติศิริ และ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา

 

และการประกาศยุบสภาของนายกรัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกุล ก็ราบรื่นถูกต้องตามหลักในรัฐธรรมนูญ

…………………………………………………..

 

1

การขอโทษต่อประชาชนคือมาตรฐานนักการเมืองเมื่อเกิดความผิดพลาดหรือกระแสวิจารณ์จากประชาชน ภาพสะท้อนชัดเจนในวัฒนธรรม “เซคินิง” (責任) ของผู้นำญี่ปุ่นที่เน้นเกียรติยศและการยอมรับผิดอย่างเด็ดขาด วัฒนธรรมเซ็นเซนี้ปลูกฝังผ่านระบบสังคมและการเมืองของญี่ปุ่นที่ให้ความสำคัญกับความละอายและความรับผิดชอบส่วนบุคคล เช่นนายกฯ นายกรัฐมนตรี นาโอโตะ คาน (Naoto Kan) ประกาศลาออกในเดือนสิงหาคม หลังถูกวิจารณ์หนักเรื่องการจัดการล่าช้า การสื่อสารข้อมูลไม่โปร่งใส และวิกฤตนิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ตามมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อภัยพิบัติอย่างสึนามิด้วยการลาออกจากตำแหน่งทันทีรับผิดชอบต่อความล้มเหลวของนโยบายหรือเหตุการณ์ใหญ่ แม้ไม่ใช่ความผิดส่วนตัว โดยสื่อมวลชนมีบทบาทสำคัญในการขยายกระแสวิจารณ์ 

 

แต่นั้นเป็นเพราะอำนาจการบริหารและโครงสร้างกฎหมาย “Disaster Countermeasures Basic Act” ของญี่ปุ่น มอบอำนาจนายกรัฐมนตรีในการตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ (Disaster Management Headquarters) ที่มีรัฐมนตรีภัยพิบัติเป็นรองประธาน เพื่อประสานงานกองกำลังป้องกันตนเอง (JSDF) และหน่วยท้องถิ่น

 

แต่ใน MOA ระหว่างพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เป็นความสมัครใจที่จะทำให้ระบบรัฐสภาเดินหน้าไปทำภาระกิจ 2 ประการ ซึ่งเรียกว่าสัญญาสุภาพบุรุษที่ต่างตอบแทนตามหลักกฎหมายแพ่งและซื่อสัตย์กันในลักษณะ “สัญญาต้องเป็นสัญญา” คือ Pacta sunt servanda 

1. แก้รัฐธรรมนูญ

2. ยุบสภา

 

2

แต่แม้ไม่ได้แก้รัฐธรรมนูญให้ลุล่วงได้ “ก็ไม่ใช่ความผิด” เพราะอำนาจในการแก้กฎหมายรัฐธรรมนูญไม่ใช่อำนาจสั่งการแบบ ซิงเกิลคอมมานหรืออำนาจสั่งการเด็ดขาดของพรรคประชาชน แต่เป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาทุกคน คนละ 1 คะแนน

 

เราจึงควรประเมินผลงานที่ได้ทำไปแล้วและทำได้แล้วภายใต้ MOA ทั้วสองฝ่ายอย่างเป็นธรรม

1) ภายใต้เงื่อนไข รธน60นั้น ภารกิจแก้ รธน ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าเป็น mission impossible “ภารกิจที่เป็นไปไม่ได้” แต่การได้เสนอร่างฯแก้ไขผ่านเข้าสภาในวาระแรกจนผ่าน กมธ เข้าวาระสองได้ ก็ถือว่าวางหมุดหมายไว้สำหรับการทำต่อแล้ว

2) สามารถผ่าน กม. เกือบ 300 ฉบับภายใน 2 เดือน และเสนอ ร่างกฎหมายฯ นับสิบฉบับเข้าไปพิจารณาไว้ในสภา แม้ว่าบางฉบับตกไปเพราะยุบสภา แต่ชุดหน้าก็หยิบขึ้นมาพิจารณาได้ง่ายไม่ต้องเช็ตใหม่

3) ได้กระชากหน้ากากทุนจีนเทา เขมรเทา แกงค์สะแกมเมอร์ที่ปล้นโลก คอลเซนเตอร์ที่หลอกคนไทยปีละ แสนกว่าล้านขบวนการบ่อนพนันออนไลน์และขบวนการโกงกินในระบบราขการตำรวจ ทการและชนชั้นสูงทั้งหลายออกมา จนนำไปสู่แคมเปญที่ท้าทายว่า “มีเราไม่มีเทา” ซึ่งต้องมีความตั้งใจทำงานอย่างหนักลำบากและจริงจัง เท่าที่ผ่านมามีผลงานมากกว่าฝ่ายค้านพรรคใดๆ ใน ปวศ รัฐสภาไทย

4) ที่สำคัญสุดยอดคือบรรลุเป้าหมายสูงสุดคือ ยุบสภา สามารถกดดันให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนได้เร็วกว่ากำหนด อันเป็นเป้าหมายแบบเดียวกันของพรรคฝ่ายค้านทั้งโลกที่อยากได้โอกาสสู้กันใหม่ในสนามเลือกตั้ง

 

ดังนั้น พรรคประขาชนตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วที่เลือกอนุทินมาบริหาร 4 เดือนแล้วยุบสภา

 

ถ้าเลือกชัยเกษม นิติสิริ พรรคเพื่อไทยเป็นนายกรัฐมนตรียิ่งผิดหนัก เพราะพรรคเพื่อไทยบอกว่า เลือกแล้วยุบสภารุ่งเช้าเลย มันถูกต้องตรงไหน 

 

เลือกรัฐบาลต้องให้มาบริหารงานตามรัญธรรมนูญกำหนด สักระยะ เหตุผลที่ถ้าเลือกชัยเกษม นิติาิริ เช้ารุ่งขึ้นประกาศยุบสภาเลย (นี้เป็นคำตอบที่รับผิดชอบทางการเมืองหรือครับ) ความคิดนี้เพิ่งเห็นและเป็นที่พิสดารยิ่ง

 

อีกประเด็น 2 ปี ของ 2 นายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทยถือว่าล้มเหลวทางการเมืองการปกครอง แล้วจะให้พรรคการเมืองไหนที่จะโง่มาสนับสนุนพรรคที่ล้มเหลวทางการบริหารแบบเห็นๆ ให้คนด่าทั่วเมือง

 

(แถมยังทิ้งท้ายแบบไม่เกรงใจเด็กว่า ถ้าชัยเกษม ป่วยทำงานไม่ได้นายกคนต่อไปขอให้สนับสนุนพลเอกประยุทธอีกจนครบ 4 ปี – เด็กพวกนี้ไม่โง่หรอกครับ)

 

หรือถ้าให้พรรคประขาชนมาร่วมเป็นรัฐบาล มันก็เช่นเดิม เสียงในสภาไม่ชนะขาด เป็นมาได้สักระยะ พรรคร่วมมันหักหลังลาออกจากการร่วมรัฐบาล จะเอาใครมาอีกครับ เพราะพรรคประชาชนไม่มีคนเป็นนายก

 

3

แท้จริงแล้ววันนั้นพรรคการเมืองในกลุ่มอนุรักษ์นิยมแพ้ขาดลอยไปตั้งแต่ #เลือกตั้ง66 แล้ว แต่ก็เป็น เพราะ#พรรคเพื่อไทย และตระกูล #ชินวัตร ไม่ใช่หรือที่ไปขุดมันขึ้นมาจากหลุมแลก(ถูกหลอก)กับการเข้ามาเพื่อปราบพรรคส้ม

พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มี ส.ส.รวม 151 คน

พรรคเพื่อไทย (พท.) มี ส.ส. รวม 141 คน

พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มี ส.ส. รวม 71 คน

พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)มีส.ส. รวม 40 คน

พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มี ส.ส.รวม 36 คน

พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มี ส.ส.รวม 24 คน

พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) มี ส.ส. 10 คน

พรรคประชาชาติ (ปช.) รวมมี ส.ส. 9 คน

พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) มี ส.ส.เขต 5 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รวมมี ส.ส. 6 คน

พรรคเพื่อไทรวมพลัง มี ส.ส.เขต 2 คน ไม่มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ

พรรคชาติพัฒนากล้า (ชพก.) รวมมี ส.ส. 2 คน

พรรคละ 1 คนมี 7 พรรค

 

วันนั้น ถ้าไม่มีการตระบัดสัตย์ พรรคประชาชน 151 +พรรคอพื่อไทย 141+พรรคประชาชาติ 9 รวมแล้ว 301 เสียง ชนะขาดลอยในสภา 

 

(แม้ว่า สว. ชุดเก่า 250 หนุนฝ่ายอนุรักษ์เป็นรัฐบาลได้ก็จริงอยู่ แต่การบริหารในสภาล้มเหลวไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะเป็นรัฐบาบเสียงข้างน้อย)

 

แต่เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ ไปเป็นนายกหุ่นให้พรรคอนุรักษ์ พรรคเหล่านี้จึงเติบโตเข้มแข็งขึ้นยุ่งเหยิงเหมือนเรียก “ผีออกจากหม้อ” เอาพวกทุนจีนเทาเข้ามา สมคบกับแกงค์สะแกมเมอร์ ตั้งฐานคอลเซนเตอร์ บ่อนพนันออนไลน์ เข้ามาติดสินบนตำรวจ ทหาร ข้ราชการขั้นผู้ใหญ่ นักธุรกิจชั้นสูง คิดสร้างเงินดิจิตอล บ่อนการพนันเอนเทอร์เทนเมนท์คอมเพล็ก ให้ออกกฎหทายให้เช่าที่ดินไทย 99 ปี ให้สิทธิจีนเทาซื้อที่ดิน ซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้ ยังก่อสงครามชายแดนไทย- เขมรเพื่อเบี่บวเบนปกปิดทุนเทาและกลุ่มแกงค์สะแกทเมอร์คอลเซนเตอร์อันเป็นที่เปรมปรีด์ของพวกทุนเทาทั้งนั้น

 

เป็นเพราะพรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ย้ายขั้ว ทุกอย่างจึงยุ่งเหยิงผิดฝาผิดตัวมาจนถึงวันนี้

 

ตามความจริง พวกสนับสนุน นายแบก นางแบกและพรรคเพื่อไทย ควรขอโทษคนไทย ไม่ใชพรรคประชาชนและพี่เท้งผมที่ต้องมาขอโทษ

 

พวกมึงมั่วมากแล้ว อย่ามั่ว

 

ขุนจัน พันนา

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด