สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568

“การที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี” เสด็จพระราชดำเนินเยือน “สาธารณรัฐ ประชาชนจีน” อย่างเป็นทางการ “ครั้งแรก” หนนี้ สะท้อนว่า ทรงให้ความสำคัญ อย่างมาก ต่อการ “พัฒนาความสัมพันธ์ จีน- ไทย”…. ผู้นำจีน “ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง” และประชาชนชาวจีน “ถวายการต้อนรับ” ที่สุดแสนประทับใจ แสดงสัญลักษณ์ “ระดับสูงสุด” ต่อประมุขแห่งรัฐที่มาเยือน….000 ความสัมพันธ์ “ไทย-จีน” เป็นมิตรที่ดี ร้อยรัด ด้วย “วัฒนธรรมเก่าแก่”..เชื่อมโยง “ภูเขา..แม่นํ้า” เสมือนญาติผูกพันธ์ด้วย “สายเลือด” จากเรือสำเภาอันยาวนานในอดีต… การเสด็จเยือนครั้งนี้ “ย่อมเพิ่มพูน ความสัมพันธ์ มากไมตรีอีกหลายเท่า” ซึ่งประชาชนชาวไทย-จีน ได้จดจำ จารึกไว้ตราบกาลนาน….000

“เอากฏหมาย เป็นเครื่องมือการเมือง หรือไม่ ?” วิจารณ์กันลั่น สนั่นเมือง ! เรื่อง “คดี 112” ของ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่อัยการสูงสุด มีอำนาจเด็ดขาด ยื่นอุทธรณ์ ความผิดตามฟ้อง… “นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์” โพสต์เฟซบุ๊ก ดักทางว่า “เป็นกลเกมการเมือง!” แผนสกัด “ทักษิณ” ไม่ให้ออกจาก “คลองเปรม” ก่อนเลือกตั้ง !… เรื่องของเรื่อง เมื่อรับโทษ ครบ 1 ใน 3 คือ 4 เดือน และ อายุเกิน 70 ปี เข้าคุณสมบัติครบ “ยื่นพักโทษได้”… แต่หากมี “คดีอื่นคาอยู่ !” นักโทษเด็ดขาด จึง “ไม่อาจพักโทษได้”…ดังนั้นช่วงอีก 2 เดือน “นายทักษิณ” จึงหมดโอกาส ออกมาช่วยหาเสียงในการเลือกตั้งครั้งใหม่.. จึงเป็นข้อสังเกตุ “ใครหนอ ? วางแผน โหดนัก !”…000

เวลาเดียวกัน “เคราะซํ้ากรรมซัด !” ดาบสอง ยังตามมาติด ๆ … ศาลฏีกา พิพากษากลับ ศาลล่าง เรียกเก็บภาษี “1.76 หมื่นล้าน” ดีลลือลั่นในอดีต จากการขาย “หุ้นชินฯ” ส่งผลให้ “ทักษิณ” ต้องจ่ายภาษี “อ่วมอรทัย”….000 “ดร.ณัฏฐวุฒิ วงศ์เนียม” นักกฏหมายมหาชน โพสต์ว่า…ผลการยื่นอุธรณ์ ของ “อัยการสูงสุด” มีผลต่อ “ทักษิณ” ที่คณะกรรมการพักโทษ ไม่อาจเห็นชอบได้ ทำให้ต้องถูกบังคับโทษ “เต็มคำพิพากษาศาลฏีกา” คือ 1 ปี.. เป็นกลยุทธ์ “ผูกขา” ทางการเมือง มิให้ผู้นำจิตวิญญาณ ของ “พรรคเพื่อไทย” ออกมาเป็นหัวหอก แกนนำ ร่วมรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ย่อมมีผลกระทบ ต่อทิศทางพรรค ทำให้พรรค “สีนํ้าเงิน” และ “พรรคส้ม” มีผลบวก ในสนามเลือกตั้ง….000 ขณะที่ “ฝ่ายต้านทักษิณ” อ้าง ความคิด คือเมล็ดพันธ์แห่งการกระทำ.. ระบุ “พุทธวาทะ”.. กรรมทั้งหลายมีวิบาก..บุญทั้งหลาย มีอานิสงส์ !….000

“ยังเป็นประเด็นร้อน !” ต้นธารกระบวนการยุติธรรม .. ผู้รักษากฏหมาย “ทำผิดกฏหมายเสียเอง!…” เรื่องราว ทุจริตอื้อฉาว รับเงินกลุ่มพนันออนไลน์ “โยงใยสแกมเมอร์” อาชญากรรม ทุกมิติ “ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”.. ถูกเปิดโปง กล่าวหาการใช้อำนาจ “คอร์รัปชั่น” จากตำรวจ ด้วยกันเอง เป็นประวัติการณ์ ระหว่าง “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีตรอง ผบ.ตร. และ “พล.ต.อ..ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร.” แฉกันไปมา บ้างก็ว่า เป็น “ยุทธการ เผาบ้านตัวเอง !”….000 กลไก ที่มีอยู่ หน่วยงานรับผิดชอบ ยังไม่สามารถ “พิสูจน์ใครสักคน” ออกมาให้กระจ่างได้…ทั้งผู้ถูกล่าวหา และ “ผู้กล่าวหา” ?…. แม้เส้นทางการเงิน วิ่งสู่เป้าหมายปรากฏชัด “แฉกันโต้ง ๆ !” ทั้งกราฟรายชื่อ ตัวเลขบัญชี สีกากี และนักการเมือง “ป.ป.ช.” ยังไม่มีบทสรุป…คนดูเกาะรั้วปทุมวัน ต่าง “ปวดเศียร เวียนเกล้า” ไปตาม ๆ กัน…000 งานนี้ ผู้บริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “ต้องชี้แจง” ให้ประชาชนเข้าใจ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น มีข้อเท็จจริงเพียงใด ?… เพราะอย่างไรชาวบ้าน ล้วนปักใจเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า “เป็นเรื่องจริง !”….000 นอกจากศึกส่วย พนันออนไลน์ เงินเทาแล้ว.. จากนี้ไป ต้องจับตาการ “แต่งตั้งโยกย้าย” ระดับ รองผู้การ ถึงสารวัตร ที่กำลังพิจารณา…คำสั่งออก “ต้นเดือนธันวาคม” ต้องโดนตรวจสอบ เข้มข้นแน่… “เด็กนายคนไหนได้ดี ?” ..ความเหมาะสม อาวุโส ผลงาน…ฤาจะต้าน “ตั๋วผีนักการเมือง !”…บิ๊กต่าย “พล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธ์เพ็ชร” ผบ.ตร. และ ผบช. หน่วยต่าง ๆ…ตั้งรับไว้ให้เหมาะ.…000

Cr. ขอบคุณเจ้าของภาพ

















