แค้นนี้ต้องชำระ
คำว่า “บุญคุณต้องทดแทน” ไม่มีในการเมืองไทยเป็นอันขาด
จะเหลือแต่ “แค้นต้องชำระ” เพราะความแค้นเปรียบเสมือน กาแฟร้อน ที่ดื่มตอนเย็นชืด มันได้รสชาติขมที่สะสมไว้ไม่มีวันลืม
แค้นนี้รออีก 10 ปี ก็ไม่สาย
สีหน้าของอนุทินระหว่างเป็น รมว.มหาดไทย กับเป็นฝ่ายค้าน จึงดูเจื่อนไปอย่างกับคนละคน
เมื่อแทงหวยผิด ที่ออกเป็นฝ่ายค้านทันทีหลัง “คลิปนายกฯ หลุด”
เพื่อไทยได้มหาดไทยกลับมาสมใจ
แต่ที่บอกจะทำงานให้ประชาชนได้อย่างเต็มที่ งานแรกกลับเป็น “ฟ้าผ่า” กลางกระทรวง
อธิบดีสายสีน้ำเงินที่จะเกษียณในอีกแค่ 2 เดือนข้างหน้ายังรอไม่ไหว กระเด็นไปตบยุงฉบับด่วน
ความแค้นยังลามไปที่ “ปฐมเหตุของ ส.ว.” ชุดที่ว่า “ฮั้ว”
ทักษิณเอ่ยปากว่า ขอเปลี่ยนเป็น “โกง” อย่างชัดถ้อยชัดคำ
ตามกระหน่ำ “เขากระโดง” ต่อเป็นดาบสอง
แล้วถอย “เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์” ปิดช่องโหว่ลดความเสี่ยง
แต่สัญญาณกระซิบลอยมาฟังได้ว่า ทั้ง 3 เรื่อง “จะเอารอดหมดเลยหรือ?”
ชั้น 14 รอด (ยกเว้น หมอ เจ้าหน้าที่ราชฑัณฑ์ ตายแทนตามเคย)
ม.112 รอด (เพราะเป็นดีลค้างเก่า ตกลงพ่วงมา)
แต่เรื่อง “จริยธรรมนายกฯ” จะเอารอดด้วย
ก็ได้ยินว่า “มันมากไป”
แล้วที่ทักษิณบอก “ฮั้ว ส.ว. มีปัญหาจริยธรรม จะไปสอบจริยธรรมนายกฯ ได้ไง?”
เสียงตอบมาว่า “แล้วทุกวันนี้ใครมีจริยธรรมกันบ้าง (วะ)?”
แผนจึงออกมาตกผลึก 3 ขั้นตอน
นายกฯ หลุด – ชัยเกษมแทน – รอจัดโผผ่านงบ แล้วยุบสภา
ที่ว่าเสียงรัฐบาล “ปริ่มน้ำ” อย่าไปประมาท
เจอ “น้ำมนต์แป้ง” ปะหน้า แต้มหน้าผาก นะจังงัง
มีกล้วยตากฝากไปให้ไม่ขาด เอาไว้ฉันแบบจุกๆ ไม่ต้องพึ่งสีกากอล์ฟ
แล้วหากใครกล้าคิดจะเบี้ยวให้มองไปด้านหลัง มีแต่มือปืนเดินตามเป็นพรวน
แค้นนี้ยังไม่หายง่ายๆ คนแก่แล้วจำแม่น งานนี้พลาดไปก้าวเดียวแค้นเก่าผสมใหม่ตามรุกฆาตมาเป็นชุดทีใครทีมัน
เสียอะไรเสียได้ แต่เสียหน้าไม่ได้
จึงต้องตามล้างตามเช็ดให้หายแค้น
ส่วนประชาชนเต็มขั้นอย่างเราได้แต่รำพึงรำพัน “ตัวใคร ตัวมัน”
ช้างสารชนกัน หญ้าแพรกโปรดหลีก ไม่ใช่เรื่องของเราอีกตามเคย
Cr. ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์