29 กรกฎาคม 2568 ทนายไพศาล พืชมงคล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ใจความว่า…

1. มาเรียนรู้พิชัยสงครามกันเถิด

(1.) เมื่อเกิดสงคราม 5 วัน ไทย-เขมร ได้เกิดความตื่นตัวครั้งใหญ่ในประเทศไทย เพราะเป็นสงครามครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก หลังจากสงครามช่องบกเมื่อ 40 ปี ก่อน เป็นสถานการณ์ที่ชาวไทยโกรธแค้นเกลียดชังผู้นำเขมรอย่างลึกซึ้ง ในขณะเดียวกันก็แสดงออกถึงความไม่ไว้วางใจผู้นำของไทย และพากันสนับสนุนกองทัพอย่างกว้างขวาง กระทั่งเรียกร้องให้ทหารเข้ายึดอำนาจ และไม่ต้องฟังคำสั่งของรัฐบาล ในขณะเดียวกันก็เกิดสถานการณ์ที่ต้องอพยพประชาชนตามแนวชายแดนเกือบ 3 แสนคน นับว่าเป็นสถานการณ์ที่ทำให้คนไทยตื่นตัวในเรื่องสงครามมากที่สุดในรอบครึ่งศตวรรษมานี้ ดังนั้น ในท่ามกลางความตื่นตัวนี้ จะต้องระมัดระวังความตื่นตัวที่โน้มเอียงไปในทางบ้าคลั่งสงคราม หรือกระหายสงคราม หรือความโน้มเอียงที่มีลักษณะดูหมิ่นถิ่นแคลนข้าศึก กระทั่งมองข้ามผลร้ายของสงครามไป ซึ่งจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง

ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องลึกซึ้งของแก่นแท้ของสงคราม จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะได้เชิญชวนท่านผู้สนใจมาร่วมกันศึกษา พิชัยสงครามไปด้วยกัน เพื่อจะได้เข้าใจสงคราม เข้าใจผลดีผลร้ายของสงคราม และทราบอย่างถ่องแท้ว่า สงครามนั้น ยังมีเรื่องของการทำสงคราม การหยุดยั้งสงคราม การทำลายสงคราม และการเอาชนะสงคราม รวมทั้งปัญหาทางการเมืองที่ต่อเนื่องจากสงครามด้วย จึงเป็นโอกาสอันดียิ่ง ที่จะได้ประกอบกรณียกิจนี้ เพื่อประโยชน์ของพี่น้องร่วมชาติต่อไป และในเรื่องนี้ จะถือหลักคัมภีร์พิชัยสงครามของซุนวู เป็นหลักในการศึกษาทำความเข้าใจ โดยจะนำเสนอเป็นตอน ๆ อย่างน้อยวันละ 1 ตอน เพื่อเราทั้งหลายจะได้เรียนรู้ไปด้วยกัน

อันโลกมนุษย์ของเรานี้ มีความขัดแย้งและทำสงครามกันมานานแล้ว มีการค้นคว้ากฎเกณฑ์การทำสงครามกันมานานแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ ประเทศที่สามารถสร้างคัมภีร์พิชัยสงครามขึ้นได้ มีเพียงจีนประเทศเดียว และมีคัมภีร์พิชัยสงครามถึง 7 ฉบับมานับพันปีแล้ว ในจำนวน 7 ฉบับนี้ยอมรับนับถือว่า คัมภีร์พิชัยสงครามของซุนวูเป็นคัมภีร์หลักที่ใช้ศึกษาอ้างอิงกันทั่วโลก มาในชั้นหลังนี้ก็มีสรรนิพนธ์เหมา เจ๋อตง 5 เล่ม ที่หลายประเทศยอมรับนับถือว่ามีฐานะเป็นคัมภีร์พิชัยสงครามยุคใหม่ด้วย และถ้าโอกาสอำนวย ก็จะได้พรรณนาไปถึง ในฐานะที่เป็นพัฒนาการของคัมภีร์พิชัยสงครามยุคใหม่ตามสมควรและจำเป็น

สำหรับอินเดียนั้น ก็มีตำราพิชัยสงครามเหมือนกัน แต่มีลักษณะเป็นจิตนิยมมาก เพราะพูดถึงเรื่องพิธีการ และลัทธิไสยศาสตร์ต่าง ๆ เช่น ตัดไม้ข่มนาม เป็นต้น มีบ้างที่พูดถึงการจัดกระบวนรบ แต่มีลักษณะเป็นจิตนิยม คือนึกฝันเอา ตามแบบแผนความคิด สงครามในรามายณะ ซึ่งอาจจะไม่สอดคล้องกับสงครามที่เป็นจริง

ขอเชิญท่านทั้งหลายที่มีความสนใจ ร่วมค้นคว้าเรียนรู้ไปด้วยกัน