31 กรกฎาคม 2568 ทนายไพศาล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ใจความว่า…
ถึงเวลาที่กองทัพไทยจะต้องพิจารณาเรื่องการจัดหา โดรนต่างๆ เข้าประจำการ เพื่อให้สอดคล้องกับการสงครามยุคใหม่ ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมจนไม่เห็นฝุ่นแล้ว
ในเรื่องนี้เขมรเขานำไทยไปไกลแล้ว จะไล่ตามเขมรได้ทันไหมล่ะนี่
การศึก 5 วันที่ผ่านมา ยังรักษาหน้าตากองทัพไว้ได้ ก็เพราะ เรามีแสนยานุภาพ ทาง อากาศที่เหนือกว่า และถือไม้ลายมือในการรบ ของทหารไทยมีความเหนือกว่า หาไม่แล้วคงจะได้อายขายหน้าเขมรกันแน่นอน
Drone สอดแนมของเขมรนั้นผลิตโดย CATIC รัฐวิสาหกิจจีนจากเมืองเฉิงตู
รุ่นหลักที่เขมรใช้งาน คือ CW-15
CW-15 มีระยะสอดแนมได้จากความสูงถึง 6.5 กิโลเมตรและมีระยะ take off สูงสุดที่ 4.5 กิโลเมตร
มีความแม่นยำในการสอดแนมสูงมากโดยมีความผิดพลาดไม่เกิน 1-3 cm. เท่านั้น
ควบคุมดูแลโดย พล.อ.อ. อิธ สาริท รอง ผบ.ทอ. และ พล.อ. เซา ซกคา ผบ.สห.
ฐานบินหลักของ drone เขมรอยู่ที่กำปงชนัง
ขณะที่โดยทั่วไปในระดับ military grade
ระบบตรวจจับ (Detection) อยู่ที่ระยะความสูง 3-10 กิโลเมตร
ระบบทำลาย (Jamming) อยู่ที่ 1.5 กิโลเมตรสำหรับ handheld และ 4 กิโลเมตรสำหรับ fixed-station
Drone สอดแนมของเขมรจึงเป็นภัยคุกคามที่เราต้องให้ความสำคัญ
เมื่อเดือนก่อนสมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน ได้นำผู้แทนทุกเหล่าทัพ และผู้แทนกระทรวงเกษตร กว่า 30 คน เดินทางไปดูกิจการโดรน ที่มณฑลเสฉวน โดย ไป เยี่ยม ชม ผู้ ผลิต โดรน ต่าง ๆ รวมทั้ง ระบบแอนตี้โดรนด้วย กว่า 20 บริษัท ได้ เห็น ถึง ความ เจริญ ก้าว หน้า และ พัฒนาการ ของ การ ใช้ โดรน และ ระบบ แอนตี้ โดรน ใน สงคราม ยุค ใหม่ ซึ่งทำให้การศึกสงครามในอนาคต ต้องเปลี่ยนโฉมหน้าไปอย่างสิ้นเชิง
ถ้าหากตามไม่ทันแล้ว ก็จะเป็นอันตรายใหญ่หลวงต่อการดูแลรักษาความมั่นคงปลอดภัยเอกราชอธิปไตยของชาติ
ถ้าส่วนราชการใด มีความประสงค์ที่จะไปดูงานเยี่ยมชมกิจการโดรน สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีน ยินดีช่วยเหลือประสานงานให้ตามความประสงค์โดยสามารถติดต่อได้ที่สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทยจีนตลอดเวลา
เมื่อสักครู่ เราประกาศเขตห้ามบิน drone ใน 14 จังหวัดโดยยืนยันว่าเรามีระบบตรวจจับและทำลาย drone ของเขมรที่มีประสิทธิภาพเพียงพอ
ขอให้กำลังใจกองทัพไทยครับ
ด่วน !! ห้ามผู้ใด “บินโดรน” ทุกวัตถุประสงค์การใช้งาน “ทุกพื้นที่ทั่วราชอาณาจักร” โดยเด็ดขาด เพื่อความมั่นคงของชาติ
มีผลทันที วันนี้ – 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568