การเมือง

มาศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด ตอน 5


1 สิงหาคม 2025, 8:42 น.

 

1 สิงหาคม 2568 ทนายไพศาล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ใจความว่า…

 

 

ศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด ตอน 5

โดยเรืองวิทยาคม

 

5. ทำความเข้าใจหลักการวินิจฉัยสงคราม

ซุนวูได้วางหลักการวินิจฉัยสงครามไว้ 5 ประการ และได้กล่าวโดยสังเขปไว้ในคัมภีร์พิชัยสงครามของซุนวูแล้ว แต่เพราะเรื่องนี้มีความสำคัญมาก ดังนั้น จึงสมควรทำความเข้าใจให้พิสดารขึ้นโดยลำดับไป

 

(1.) แม้ว่าหลักการวินิจฉัยสงครามกำหนดไว้ 5 ประการ แต่ก็มิได้จำกัดว่ามีเพียงเท่านี้ กรณีใดก็ตามหรือเหตุปัจจัยใดก็ตามที่มีผลกระทบ หรืออาจมีผลกระทบต่อหลักการทั้ง 5 ประการนี้ หรือต่อสภาวะสงครามโดยรวม กรณีนั้น ๆ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องนำมาวินิจฉัยประกอบด้วย นี่คือ การใช้คัมภีร์พิชัยสงครามโดยไม่ถือหลักตายตัวตามตัวหนังสือ แต่ถือสภาพตามความเป็นจริง ซึ่งสอดคล้องกับทฤษฎีลัทธิมากซ์–เลนิน และหลักการวินิจฉัยสถานการณ์ที่ถือความจริง ที่เกิดขึ้นจริงเป็นบทเรียน และเป็นตัวกำหนดสถานการณ์ที่เป็นจริงด้วย

 

(2.) ความหมายของคำว่า ธรรม ซึ่งเป็นหลักการแรกของการวินิจฉัยสงคราม แม้ว่าเป็นสิ่งที่ไร้ตัวตน ไม่สามารถจับต้องได้ก็ตาม แต่สามารถสัมผัสรู้ได้ด้วยความรู้สึกนึกคิด และส่งผลต่อการกระทำของผู้คน คำว่าธรรมนั้น ไม่มีความหมายแน่นอน ในทางนิรุกติศาสตร์ คำว่าธรรมเป็นคำที่มีความหมายกว้างขวางจนแทบไม่มีความหมาย ดังที่ปรากฏในบทสวดพระอภิธรรมในงานศพ ที่พระท่านสวดว่า สิ่งที่เป็นกุศลทั้งหลายเป็นธรรม สิ่งที่เป็นอกุศลทั้งหลายก็เป็นธรรม สิ่งที่เป็นหรือไม่เป็น ทั้งกุศลและอกุศล ก็เป็นธรรม ซึ่งมีความหมายโดยรวมว่า สรรพสิ่งนั้น เป็นธรรม แต่ธรรมในคัมภีร์พิชัยสงครามนั้นต่างกันไป แม้ไม่มีคำจำกัดความแต่มีความหมายว่า ความถูกต้อง ความชอบธรรม ความรู้สึกพ้องต้องกัน ว่าเป็นความถูกต้อง อันมีความหมายในลักษณะสันติภาพ สันติสุข และสันติธรรม

 

สำหรับประเทศไทย หรือประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนานั้น ได้กำหนดความหมายไว้ชัดเจน คือ

 

ทศพิธราชธรรม ได้แก่ธรรมหรือข้อปฏิบัติ 10 ประการ สำหรับผู้นำ หรือผู้เป็นพระราชา

 

การที่กำหนดเอาธรรมเป็นหลักวินิจฉัยสงครามข้อแรกสุดก็เพราะว่า เป็นเรื่องของความรู้สึกนึกคิด ของไพร่พลกำลังรบและราษฎรทั้งปวง ว่าจะสนับสนุนเข้าร่วมสงครามหรือไม่ เพราะสงครามนั้นต้องดำเนินโดยกำลังพลและมวลชนที่สนับสนุนอย่างกว้างขวางที่สุด หากกำลังพลและมวลชนไม่สนับสนุน หรือต่อต้านด้วยแล้ว การดำเนินสงครามก็ไม่อาจดำเนินไปได้เลย และถ้ามวลชนรวมทั้งประชาชนสนับสนุนอย่างแข็งขันเพราะเชื่อมั่นในธรรมแล้ว ก็จะมีพลังวิริยภาพในการสู้รบทำสงครามจนถึงที่สุดได้ สามารถรับมือและฝ่าฟันอุปสรรคความยากลำบากและความสูญเสียต่าง ๆ ได้ จึงเป็นปัจจัยหลัก ในการระดมพลังของกำลังพลและของมวลชนเข้าสู่สงคราม ดังนั้นจึงมีฐานะสำคัญที่สุด

 

เพราะเหตุนี้ในทุกสงคราม จึงต้องช่วงชิงฐานะที่ถูกต้องเป็นธรรมกันอย่างเอาจริงเอาจังเสมอ ปฏิบัติการจิตวิทยามวลชนต่าง ๆ หรือที่เรียกว่า ไอโอในปัจจุบันนั้น แท้จริงก็คือ การช่วงชิงฐานะที่เป็นธรรมให้กับฝ่ายตน และผลักอีกฝ่ายหนึ่งไปสู่ฐานะความไม่ชอบธรรม

 

เพียงหลักวินิจฉัยสงครามประการแรกก็จะเห็นได้ว่า ฝ่ายใดมีธรรม ฝ่ายนั้นก็จะได้เปรียบ และมีพละกำลังในสงครามด้วยพลังวิริยภาพของมนุษย์เพิ่มขึ้น ในทางตรงกันข้ามฝ่ายใดสูญเสียธรรม หรือไม่ตั้งอยู่ในธรรม ก็จะขาดพลังวิริยภาพ และพลังการสนับสนุนจากกำลังพลและมวลชน จนกระทั่งไม่สามารถทำสงครามและยืนหยัดในสงครามได้ และจะประสบกับความปราชัยในที่สุด นอกจากนั้น การมีธรรม อันเป็นหลักการข้อแรกยังส่งผลต่อหลักการวินิจฉัยสงครามข้ออื่น ๆ ด้วย เพราะเมื่อเริ่มต้นด้วยการมีธรรมแล้ว เรื่องต่อเนื่องทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นและดำเนินไปโดยธรรม ซึ่งเป็นศักยสงครามที่มีพลังมาก แม้ว่าไม่มีตัวตนที่สัมผัสได้ก็ตาม

 

ดังนั้นความเข้าใจเรื่องธรรม การประพฤติปฏิบัติธรรม และการทำให้กำลังพลและมวลชนรู้สึกสำนึกมั่นคงในธรรมได้ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของชัยชนะตามพิชัยสงคราม

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด