“ศุภจี” ขึ้นเวทีอาเซียน โชว์นโยบายเร่งเครื่องเศรษฐกิจ “Quick Big Win” กระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นเพื่อการเติบโตระยะยาว ดันไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจภูมิภาค

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2568 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นเวทีสนทนาแสดงวิสัยทัศน์ด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลไทย ซึ่งจัดโดย สภาธุรกิจอาเซียน ในห้วงสัปดาห์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย โดยมีผู้เข้าร่วมงานจากภาคธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียนมากกว่า 500 คน
นางศุภจีกล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แม้ว่าขณะนี้ มีสถานการณ์ที่ท้าทายหลายเรื่อง แต่รัฐบาลมีแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างชัดเจนมุ่งสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรมในระยะสั้นที่มีผลต่อเนื่องในระยะยาว เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นและวางรากฐานการเติบโตใหม่ของประเทศ โดยมีมาตรการสำคัญ อาทิ โครงการ “คนละครึ่งพลัส” ที่จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชนกว่า 13-14 ล้านคน และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือน การสนับสนุน SME เข้าสู่ระบบเฟรนไชส์ด้วยมาตรฐาน การอบรม และการเข้าถึงแหล่งทุน รวมถึงการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยโครงการ “Fast Plus Pass” ที่ลดขั้นตอนทางราชการและเร่งการอนุมัติของ BOI เพื่อให้นักลงทุนตั้งกิจการในไทยได้รวดเร็วขึ้น

นางศุภจี ได้กล่าวถึงเป้าหมายระยะยาวจะใช้จุดแข็งของไทยในด้านการเกษตรสู่การเป็นศูนย์กลางความมั่นคงทางอาหารของภูมิภาค พร้อมส่งเสริมภาคเอกชนปรับตัวสู่มาตรฐาน ESG และเทคโนโลยีดิจิทัล โดยระบุ 7 อุตสาหกรรมอนาคตที่จะเป็นหัวใจในการยกขีดความสามารถของประเทศได้แก่ ดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ยานยนต์ยุคใหม่ อาหารแห่งอนาคต พลังงานสะอาด เทคโนโลยีชีวภาพ และวิทยาศาสตร์สุขภาพและสุขภาวะ
พร้อมกันนี้ นางศุภจี กล่าวด้วยว่า ไทยยังมีเป้าหมายในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน โดยใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์เชื่อมโยงจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และบทบาทของไทยในฐานะประธานการเจรจาจัดทำความตกลงเศรษฐกิจดิจิทัลอาเซียน (DEFA) ซึ่งจะยกระดับอาเซียนให้เป็นภูมิภาคแห่งเศรษฐกิจดิจิทัลที่มีความเชื่อมโยง แข็งแกร่ง และยืดหยุ่น
แม้รัฐบาลจะมีระยะเวลาการดำรงตำแหน่งจำกัด แต่นางศุภจี ย้ำว่า ประเทศไทยมีแผนเศรษฐกิจที่ชัดเจน และเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นในการสร้าง “ชัยชนะทางเศรษฐกิจระยะสั้น” โดยมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเร่งด่วนให้กับประชาชน ควบคู่กับการสร้างรากฐานเศรษฐกิจอนาคต เพื่อให้ไทยกลับมาเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่เข้มแข็งและเปิดกว้างของภูมิภาคอีกครั้ง

















