ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวการจับกุมยาคีตามีนน้ำหนัก 300 กิโลกรัม และปฏิบัติการล้มคอกม้ายึดเงินสดได้คามือ 846,800 บาท


4 พฤศจิกายน 2025, 18:32 น.

 

ตำรวจภูธรภาค 1 แถลงข่าวการจับกุมยาคีตามีนน้ำหนัก 300 กิโลกรัม และปฏิบัติการล้มคอกม้ายึดเงินสดได้คามือ 846,800 บาท

 

 

วันอังคารที่ 4 พ.ย.2568 เวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมอมรวิวัฒน์ ตำรวจภูธรภาค 1 : พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 พร้อมคณะฯ ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุม 2 คดี ยาคีตามีนน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม และปฏิบัติการล้มคอกม้ายึดเงินสดได้คามือ 846,800 บาท

 

คดีที่ 1 :

บก.ภ.จ.สระบุรี โดย พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จ.สระบุรี ร่วมด้วย บก.สส.บช.ภ.1 ชุดขยายผลยาเสพติด, ศอ.ปส.ภ.1 ขกท., ขกท.ศปก.นสศ., ผบ.ขกท.ศปก.นสศ., สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค 1 และเจ้าหน้าที่ในสังกัดฯ ได้ร่วมกันสืบสวนจับกุม ผู้ต้องหาที่ทำหน้าที่จัดเก็บและลำเลียงยาเสพติดกลุ่ม “นักขนยาเสพติดตะวันออก” จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย คือ

1.นายภาณุวัฒน์ฯ หรือน๊อต อายุ 28 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาที่ 1,

2.นายดนุพลฯ หรือมอส อายุ 25 ปี ภูมิลำเนา ต.หนองเหียง อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ผู้ต้องหาที่ 2

 

พร้อมของกลาง คือ

1.คีตามีนซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 รวมน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม,

2.รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ก สีขาว ที่ใช้ลำเลียงยาเสพติด จำนวน 1 คัน,

3.โทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใช้ในการติดต่อซื้อขายยาเสพติด จำนวน 2 เครื่อง

 

 

พฤติการณ์ในการจับกุม สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบสวนขยายผลจากการจับกุมนายสุรัตน์ กับพวกรวม 3 คน พร้อมยาบ้า 60,000 เม็ด ที่บริเวณสะพานต่างระดับสิงห์ใต้ หมู่ 2 ต.ม่วงหมู่ อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2568 จนทราบว่ามีกลุ่มของนายภาณุวัฒน์ฯ หรือน๊อต ผู้ต้องหาที่ 1 เคยจัดส่งยาเสพติดให้กลุ่มของนายสุรัตน์ฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ได้สั่งการให้สืบสวนติดตามกลุ่มของนายภานุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อวันที่ 2 พ.ย.2568 เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพบนายภานุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถยนต์ของกลางที่ตรวจยึดได้ออกจากพื้นที่พักอาศัยมุ่งหน้าไปทาง จ.สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ติดตามไปจนกระทั่งพบว่า นายภานุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 ไปรับยาเสพติดของกลางมาจากพื้นที่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี แล้วขับรถกลับมุ่งหน้าไปทาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้เส้นทางถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงติดตามมา

 

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2568 เวลาประมาณ 01.30 น. เมื่อนายภาณุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 ขับรถมาถึงบริเวณถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ กม.11+900 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงเข้าสกัดจับรถยนต์ของกลางที่นายภาณุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 ขับมา โดยภายในรถมีนายดนุพลหรือมอส ผู้ต้องหาที่ 2 นั่งมาด้วย จากการสอบถามนายภาณุวัฒน์ฯ หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 และนายดนุพลฯ หรือมอส ผู้ต้องหาที่ 2 ยอมรับว่าได้ไปรับยาเสพติดของกลางที่ตรวจยึดได้มาจริง และกำลังจะนำไปส่งให้กับผู้รับในพื้นที่ อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แจ้งข้อหาให้นายภาณุวัฒน์หรือน็อต ผู้ต้องหาที่ 1 และ นายดนุพลหรือมอส ผู้ต้องหาที่ 2 ทราบว่ากระทำผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในหมู่ประชาชน”

 

สถานที่เกิดเหตุ ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพฝั่งใต้ กม.11+900 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.2568 เวลาประมาณ 01.30 น. การจับกุมในครั้งนี้ เป็นการระงับยับยั้งการแพร่กระจายยาเสพติดไปสู่ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งยาเสพติดของกลางน้ำหนักรวมจำนวน 300 กิโลกรัม หากถูกนำออกขายสู่ท้องตลาดจะมีมูลค่ากว่า 150,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะได้ขยายผลถึงกลุ่มลูกค้า ผู้สั่งการ และบุคคลในเครือข่ายยาเสพติด รวมถึงทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด โดยจะนำมาตรการสมคบ สนับสนุนช่วยเหลือ ฟอกเงิน และยึดทรัพย์สิน มาใช้ดำเนินการกับบุคคลในเครือข่ายยาเสพติดต่อไป

 

คดีที่ 2 : ล้มคอกม้า

บก.สส.ภ.1 ยึดเงินสดได้คามือ 846,800 บาท ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2568 ชุด บก.สส.ภ.1 ได้ทำการสืบสวนกลุ่มเครือข่ายคนไทยที่เป็นผู้จัดหาบัญชีม้าและฟอกเงิน ที่เป็นเครือข่ายฟอกเงินให้กลุ่ม scamnner โดยได้ทำการสืบสวนจนจนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลมีพฤติกรรมรวมตัวกันเป็นกลุ่ม จัดหาบัญชีม้าเพื่อรับเงินจากกลุ่มแก๊งอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์ระหว่างประเทศ โดยมีหัวหน้าชาวจีนคอยสั่งการหญิงชาวไทยให้รวบรวมจัดหากลุ่มบุคคลที่จะรับโอนเงินจากการหลอกลวง นำเงินดังกล่าวมาฟอกด้วยวิธีการนำเงินสดไปและเปลี่ยนเป็นเป็นเงินสกุลคริปโตเคอเรนชื่ แล้วส่งต่อกลับคืนไปให้หัวหน้าชายชาวจีน โดยกลุ่มคอกม้าจะได้เงินเป็นเปอร์เซ็นของการกดเงินได้เป็นค่าตอบแทน จึงได้ทำการสืบสวนเรื่อยมาจนกระทั่งทั่งนำไปสู่การสะกดรอย เฝ้าสังเกตการณ์ และนำไปสู่การตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาและตรวจยึดของกลาง ในสถานที่ต่างๆ ดังนี้

1.หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ ช.หมู่บ้านรัตนาธิเบศร์ 2/1 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี,

2.คอนโด ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นทบุรี,

3.ห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว และ

4.โรงแรม แขวงรัชดา เขตดินแดง กรุงเทพฯ

 

 

โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมดจำนวน 8 คน โดยมีฐานความผิดแตกต่างกันตามพฤติกรรมความผิด ดังนี้

1.ร่วมกันเป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและ มีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมายกระทำความผิดฐานเป็นอั้งยี่และสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเป็นช่องโจร หรือร่วมกันประชุมในที่ประชุมอั้งยี่หรือซ่องโจร,

2.ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใดๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่าหรือให้ยืม บัญชีเงินฝากบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด,

3.เปิดหรือยินยอมให้บุคคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่า จะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด,

4.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันฟอกเงิน กลุ่มผู้ต้องหาประกอบด้วยกลุ่มผู้ควบคุมและสั่งการ (หัวหน้า/ผู้บริหารเครือข่าย)

1.น.ส.ภูชิษาฯ (แจ๋ว/เบล) อายุ 43 ปี ควบคุมสั่งการ เลือกบัญชีธนาคารให้กลุ่มจีนใช้รับเงิน และรับเงินสดจากผู้ร่วมขบวนการ เพื่อนำไปส่งให้นายทุนชาวจีนกลุ่มจัดหา-ควบคุมบัญชีม้า,

2.นส.ศติธรฯ (บุ๋ม) อายุ 38 ปี กดเงิน-รวบรวมเงินสดส่งให้ น.ภูชิษาฯ,

3.นายอดิศักดิ์ฯ (หนุ่ม) อายุ 38 ปี จัดหาบัญชีธนาคารใช้เป็นบัญชีม้าให้กับ นส.ศศิธรฯ และควบคุมคุมขี่ม้าที่โรงแรม,

4.นายเพชรฯ อายุ 30 ปี ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า นัดหมายและพาไปตามจุดถอนเงินกลุ่มผู้มอบบัญชีให้ผู้อื่นใช้ (เจ้าของบัญชีม้า),

5.นส.ฐญามนฯ อายุ 47 ปี บัญชีม้า-ถอนเงินสดแล้ว,

6.นายไชยเชฏฐ์ฯ อายุ 53 ปี บัญชีม้า,

7.นายสีชายฯ อายุ 44 ปี บัญชีม้า และ

8.นายดนุพลฯ อายุ 27 ปี บัญชีม้า

 

จากการปฏิบัติการสามารถตรวจยึดของกลางได้ ดังนี้

1.เงินสด จำนวน 846,800 บาท,

2.บัญชีธนาคาร จำนวน 13 บัญชี,

3.บัตรกดเงินสด จำนวน 14 ใบ,

4.โทรศัพท์มือถือ จำนวน 18 เครื่อง,

5.ชิมโทรศัพท์มือถือ จำนวน 23 ชิม,

6.เครื่องนับธนบัตร จำนวน 1 เครื่อง

 

 

จากการซักถามทราบว่ากลุ่มดอกม้าที่ถูกจับกุมได้ย้ายฐานสแกนหน้าจากประเทศกัมพูชามาดำเนินการในประเทศไทยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2568 เนื่องจากปัญหาแนวชายแดน โดยเฉลี่ยแล้วจะถอนเงินสดนำส่งให้ผู้จ้างานในวงเงินประมาณ 1-2 ล้านบาท ต่อวัน จะได้ค่าตอบแทนเหมารวมร้อยละ 4 ของยอดถอนเงิน รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท นอกจากนี้จากการสืบสวนขยายผลพบว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการส่งผลประโยชน์ที่ได้รับจากการกระทำความผิดกลับไปยังนายทุนชาวจีน โดยใช้วิธีการให้คนไทยนำเงินสดไปแลกเหรียญดีจิทัล จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาจะโอนเหรียญดิจิทัลกลับไปให้นายทุนขาวจีน ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสวนขยายผลต่อไป จากการปฏิบัติการดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก WARROOM PCT ตร.ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินและประสานติดตามผู้เสียหาย โดยในเบื้องต้นตรวจสอบพบว่า มีผู้เสียหายโอนเงินมายังกลุ่มคอกม้านี้ในวันที่ 2 พ.ย.2568 และได้ถอนเงินที่ได้จากหลอกลวงออกมาที่ห้างย่านลาดพร้าว คือ

1.นายชาญวิทย์ฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 160,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี,

2.นายอนุฏลฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 9,700 บาท ประสานเจ้งความที่ สภ.หัวหิน จ.ประจาบคีรีขันธ์,

3.นส.สิริย์ปัญญาฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 20,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี,

4.นางนิดานาถฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 45.531 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สถ.เมืองแพร่ จ.แพร่,

5.นางปิยะกรฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 12,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สน.นิมิตรใหม่ กรุงเทพฯ,

6.น.ส.พัทธนันทน์ฯ ตรวจยึดเงินไว้ได้ 45,000 บาท ประสานเข้าแจ้งความที่ สภ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม

 

ตำรวจภูธรภาค 1 โดย บก.สส.ก.1 จะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินในรายอื่นๆประสานการคืนเงิน (Money cash back) ให้กับผู้เสียหาย ต่อไป

 

ขอประชาสัมพันธ์ประชาชน หากพบบุคคล รถต้องสงสัย หรือมีข้อมูลการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถติดต่อให้ข้อมูลได้ที่สถานีตำรวจที่ท่านสะดวก หรือ สายด่วน 191 และ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลดังกล่าวไปสืบสวนขยายผลจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป

 

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

เรื่องล่าสุด