“เสธ.แมว” ชี้ปัญหาการเมืองกัมพูชาบีบคั้น จนปะทุเป็นวิกฤตชายแดน ย้ำไทยต้องฟันเครือข่ายสแกมเมอร์ให้สิ้นซาก ควบคู่ยุทธศาสตร์การรบและข้อมูลข่าวสารอย่างเป็นระบบ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ และสร้างเสถียรภาพให้มั่นคง

พล.ท. ภราดร พัฒนถาบุตร ประธานยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง พรรคไทยสร้างไทย แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย กัมพูชา ซึ่งกำลังทวีความตึงเครียดขึ้นจากปัจจัยหลายด้าน ทั้งความเปราะบางทางการเมืองภายในกัมพูชา ปัญหาเศรษฐกิจ และแรงกดดันจากมหาอำนาจที่กำลังจับตาพฤติกรรมของกลุ่มผู้มีอำนาจในกัมพูชา โดย พล.ท. ภราดร ระบุว่าสถานการณ์ล่าสุดเป็นมากกว่าการยิงตอบโต้ระหว่างทหารสองประเทศ แต่มีมิติทางภูมิรัฐศาสตร์และสงครามข่าวสารเข้ามาพัวพันอย่างซับซ้อน
พล.ท.ภราดร ชี้ให้เห็นว่าต้นตอความตึงเครียดรอบใหม่ส่วนหนึ่งเกิดจากปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์ข้ามชาติซึ่งโยงใยเชิงผลประโยชน์กับกลุ่มผู้มีอำนาจในกัมพูชา การที่ไทยเข้มงวดด้านการบังคับใช้กฎหมายและอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดแรงกดดันต่อผู้นำกัมพูชาจนมีความพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชนภายในประเทศ นอกจากนี้ มหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนต่างกังวลต่อบทบาทของเครือข่ายสแกมเมอร์ระดับภูมิภาค จึงผลักดันให้กัมพูชาเร่งสะสางปัญหา ยิ่งทำให้แรงกดดันทางการเมืองภายในทวีคูณจนสะท้อนออกมาในพื้นที่ชายแดน
พล.ท. ภราดร ยังกล่าวถึงรูปแบบการเคลื่อนไหวของกัมพูชาที่มีการใช้สงครามข่าวสารอย่างเข้มข้น ทั้งการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง รวมถึงการใช้พื้นที่พลเรือนเป็นฐานยิงหรือจุดตั้งอาวุธหนัก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเสี่ยงต่อประชาชนและละเมิดหลักปฏิบัติสากล ขณะที่ฝ่ายไทยยืนยันว่าปฏิบัติการทุกอย่างเป็นการป้องกันตนเอง และมีการเก็บหลักฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อเสนอต่อประชาคมโลก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการปะทะตามหลายจุดสำคัญริมชายแดนที่กัมพูชามีการใช้อาวุธยิงสนับสนุนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
พล.ท.ภราดร ระบุว่ารัฐบาลและกองทัพไทยต้องเป็นเอกภาพร่วมกันการกำหนดยุทธศาสตร์ปฏิบัติการที่ชัดเจนเพื่อยุติภัยคุกคามให้เร็วที่สุด ทั้งการตอบโต้เฉพาะเป้าหมายทางทหาร การทำลายเส้นทางลำเลียงกำลังและคลังอาวุธ รวมถึงการเตรียมพร้อมป้องกันล่วงหน้าไม่ให้สถานการณ์ลุกลาม พร้อมย้ำว่ากองทัพจะไม่ประมาทแม้กัมพูชาจะมีข้อจำกัดด้านยุทโธปกรณ์ ในขณะที่ฝ่ายปกครองก็เร่งเตรียมความพร้อมด้านการอพยพและแผนช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่เสี่ยง
พล.ท. ภราดร ย้ำว่าหากไทยต้องการให้วิกฤตครั้งนี้ยุติลงอย่างยั่งยืน ประเทศจำเป็นต้องจัดการปัญหาเครือข่ายสแกมเมอร์อย่างจริงจังเพื่อสร้างความโปร่งใส ความสะอาดบริสุทธิ์ในระบบเศรษฐกิจและการเมือง ควบคู่กับการดำเนินยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงที่เด็ดขาดให้สถานการณ์ชายแดนจบลงอย่างแท้จริง พร้อมระบุว่าการมีการเมืองที่สุจริตและไม่ปล่อยให้เครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติฝังตัวอยู่ในภูมิภาค จะเป็นรากฐานสำคัญที่ทำให้ไทยไม่ต้องเผชิญความไม่มั่นคงซ้ำซาก และช่วยสร้างเสถียรภาพระยะยาวทั้งภายในประเทศและในภูมิภาคต่อไป

















