สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม พุทธศักราช 2568
“ไปโดนเขาหลอกอีกแล้ว..น้องแก้วไม่เข็ด !”…เสียงเพลงลูกทุ่ง ดังกระหึ่ม ลั่นวงการเมือง..เมื่อนกรู้ “อนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี ถวายพระราชกฤษฏีกา “ยุบสภา” คืนอำนาจประชาชน เป็นที่เรียบร้อย โรงเรียนหนู เมื่อ 11 มีผล 12 ธันวาคม 2568….000 งานนี้ “พรรคประชาชน” เพลี่ยงพล้ำทางการเมือง “ขาดทุนยับ !” มีแต่เสียกับเสีย..“รัฐธรรมนูญก็ไม่ได้แก้ !” ทั้ง ๆ เกือบถึงปลายทาง พังต่อหน้า..แถมถูกหลอกเป็น “ฝ่ายค้ำรัฐบาล” ไม่เหลือผลงาน…ที่สำคัญเสียคะแนน จากกระแสโจมตี “กองทัพ” อีกตะหาก ….000 ก่อนหน้านี้ “บิ๊กหนู” ได้ใจจากการ “เกาะกระแสชาตินิยม” ประเด็นความมั่นคง มาตลอด… “กินฟรีสามเดือน” ไม่นับช่วงรักษาการ…ทำไปทำมา กังวลกันว่า “จะมีเลือกตั้งหรือไม่ ?” ท่ามกลางสถานการณ์ตรึงเครียด ด้านชายแดน… 000
ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา “ดร.ปณิธาน วัฒนายากร” ผู้เชี่ยวชาญ ด้านความมั่นคงฯ กล่าวว่า หากมีการแทรกแซงจาก “มหาอำนาจ” มากขึ้น และล้มเหลว จะทำให้บานปลาย กลายเป็น “สงครามตัวแทน” ที่เหนือการควบคุม !… 000 ขณะที่ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย” ประกาศจุดยืน บนหลักสากล “ประเทศไทย ไม่เป็นหมาก ของใคร ?”.. ไม่เป็นเวทีใคร และไม่เป็น “ตัวแปร” ให้ความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ ของชาติอื่น ขยายตัวในภูมิภาคของเรา !…“อธิปไตยไทย” ไม่ยอมรับการแทรกแซง จากประเทศใด …000
สถานการณ์ปะทะ “กัมพูชา – ไทย” เดือดขยายเป็นวงกว้าง ทั้งกองทัพภาคที่ 2 ภาคที่ 1 ด้านอีสาน ลงมาถึงเขตรับผิดชอบของ “กองทัพเรือ” บริเวณชายแดน จังหวัดตราด…จอมเผด็จการ “ฮุนเซน” ยังใช้กลยุทธ์ “หลอกลวงชาวโลก” และชาวกัมพูชาเองว่า เป็นผู้ถูกกระทำ ทั้ง ๆ เป็นฝ่าย “เริ่มยิงก่อน” ทุกครั้งที่ออกบัญชาการรบ….000 ฝ่ายไทย มีเป้าหมายโจมตี กองกำลังทหาร, บ่อนคาสิโน, “แหล่งสแกมเมอร์” ซึ่งเป็นหัวใจ “แหล่งทุน” สำคัญของ “ฮุนเซน” เครือข่ายอำนาจมาช้านาน…ต้องจัดการให้ “เด็ดขาด” ป้องกันปัญหา คาราคาซัง ต่อเนื่องในอนาคต ทั้งหลีกเลี่ยง แรงกดดันจาก “มหาอำนาจภายนอก” ที่ต้องการ ให้ “หยุดยิง!” แล้วสร้างปัญหา “คาเอาไว้”…000
การเคลื่อนย้าย รถดาวเทียมระบบองค์ประกอบ “จรวดหลายลำกล้อง PHL -03” ขนาด 300 MM . “ตัวท็อป” อานุภาพสูงสุด จากการซุกซ่อน รักษาปกป้อง “คฤหาสน์ บ้านฮุนเซน” ออกมาสู่ พื้นที่ “จังหวัดกัมปงธม”… คาดกันว่า เป็นการเตรียมกำลัง ความพร้อมสูงสุด มากระจุก ริมชายแดน โดยมี ยุทโธปกรณ์หลักคือ “BM.21” หลายชุดยิง… ด้วยเหตุนี้ ไทยจำเป็นต้องใช้ “เวหานุภาพ” ในพื้นที่ลึกขึ้น การโจมตีเป้าหมาย ของ “กองทัพอากาศไทย” ต้องดำเนินไปอย่างเข้มข้น มากขึ้น !…000
สถานการณ์สู้รบ ระหว่างไทย-กัมพูชา ขณะนี้ ผู้รู้กล่าวว่า อยู่ในสถานะ ใช้กำลังตอบโต้ ปกป้องตนเอง ในสถานการณ์ฉุกเฉิน…ยังไม่ยกระดับ “เป็นสงคราม !” แต่อย่างใด…การประกาศสงคราม “ตามรัฐธรรมนูญ 2560”.. เป็นพระราชอำนาจของ พระมหากษัตริย์ ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบ “จากรัฐสภา” ลงมติเสียงไม่น้อยกว่า “สองในสาม” ของสมาชิกรัฐสภา… จากนั้นทูลเกล้าฯ ถวายทรงลงพระปรมาภิไธย ในราชกิจจาฯ …เป็นการประกาศสงครามโดยสมบรูณ์…ดังนั้นวันนี้ จึงเป็นสิทธิ อันชอบธรรม ที่ต้องปกป้อง “บูรณภาพ แห่งดินแดน”…. 000
รู้กันว่า ผู้คนส่วนใหญ่ ในกัมพูชา “ไม่มีใครชอบ ฮุนเซน” แต่ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าแม้ตั้งคำถาม รวมทั้ง “สื่อมวลชน”…เกรงจะกลายเป็น “ปุ๋ย !”… ผู้นำเจ้าเล่ห์ วางกโลบาย “ขอบริจาคเสบียง ให้ทหาร” เพียงต้องการ หยั่งปริมาณ “คะแนนนิยมตนเอง !” เนื่องเพราะ รัฐบาลพลัดถิ่นเอกราช ของ “สมรังสี” ประกาศเดินทางกลับมา ทวงประชาธิปไตย “กัมพูชา” ต้นปีหน้า…งานนี้ จอมเผด็จการ รู้ว่า ตนเองเป็นรอง ดูท่า “ไม่รอด !”… จึงกอดสมบัติ เงินทองมหาศาลเอาไว้แน่น ..000
สถานการณ์ภายใน “กัมพูชา” ยามนี้ อยู่ในภาวะปั่นป่วน ของอำนาจ การตัดสินใจอยู่ที่ “ฮุนเซน” ส่วนใหญ่ … อย่าลืมว่า “ฮุนมาเนต” นายกรัฐมนตรี เป็นผลผลิต ของสหรัฐอเมริกา จาก “เวสต์ปอยท์” การบัญชาการรบ “กำเปรี๊ยะ” ได้อยู่ในกำมือของผู้เป็นบิดา ทำให้บทบาท “ฮุนมาเนต” อ่อนด้อยลง แต่สถานะ การเจรจา การพูดคุย น่ารู้เรื่องกว่า “ผู้เป็นบิดา” มากนัก …000
ด้วยอายุมาก สุขภาพร่วงโรย ปลายอายุขัย “ฮุนเซน” มักเป็นโรค “ระแวง !” วิตกกังวล สถานะอำนาจ ตนเองเป็นอย่างยิ่ง ท่ามกลางวิกฤติ ที่ “ประชาชน พร้อมลุกฮือ!”… หาทางถอย “หนีตาย” ไปทางไหนไม่ได้ “โลกล้อมทุกด้าน”.. เล่ากันว่า นอกจากจีน ที่มีทองคำฮุนเซน ประกันอยู่เป็นจำนวนมาก “อาจให้ลี้ภัย” ในวาระสุดท้าย ก็เป็นได้…สนามการต่อรอง เป็นไปได้ทั้งหมด “หากผลประโยชน์ ลงตัว !”…000
