การเมือง

มาศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด (ตอน 6)


4 สิงหาคม 2025, 9:40 น.

 

6. มาศึกษาพิชัยสงครามกันเถิด (ตอน 6) โดยเรืองวิทยาคม

 

 

หลักการวินิจฉัยสงคราม (ต่อจากตอน 5) 

 

ธรรมเป็นหลักวินิจฉัยสงครามข้อแรกสุดและมีความสำคัญที่สุด เป็นเรื่องที่คู่สงครามจะต้องช่วงชิงฐานะเป็นผู้มีธรรมให้ได้ และต้องสามารถประกาศความชอบธรรมการทำสงครามให้ได้

 

ในขณะเดียวกันก็มีคำกล่าวโดยทั่วไปว่า ธรรมะไม่มีในสงคราม ซึ่งหมายความว่า ในการทำสงครามนั้น จะไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ธรรมะ เช่นนี้แล้วจะไม่ขัดกันหรือ หรือว่าอย่างไหนถูกอย่างไหนผิดกันแน่

 

วินิจฉัยว่า ถูกทั้งสองอย่างและไม่ขัดกัน เพราะในการทำสงครามทั้งกระบวนนั้น ธรรมจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เป็นสิ่งที่จะชี้ขาดแพ้ชนะของสงครามทั้งหมด แต่ในการดำเนินสงครามตั้งแต่การวางแผน การเจรจา การเตรียมกำลัง การระดมกำลัง การเคลื่อนกำลัง การทำการรบ การทำการยุทธ และการทำยุทธการต่าง ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องใช้กลอุบาย การล่อลวง การหลอกลวง การโกหก และกระทำทุกสิ่งอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของสงครามคือชัยชนะ การล่อลวงข้าศึกด้วยอามิส การหลอกลวงข้าศึกด้วยความเท็จในประการต่าง ๆ การสร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความเข้าใจต่าง ๆ แม้กระทั่งการประหัตประหารกัน ด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมอำมหิตที่สุด ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่เป็นธรรมทั้งสิ้น และเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการโดยทั่วไปตลอดกระบวนการของการทำสงคราม ดังนั้น สงครามที่ต้องมีธรรมกับการดำเนินสงครามที่ไม่มีธรรมจึงเป็นเรื่องเดียวกัน สอดคล้องกัน และมิได้ขัดแย้งกัน ทั้งเป็นสิ่งที่พิชัยสงครามกำหนดและสนับสนุนให้ต้องดำเนินการเช่นนั้นด้วย 

 

ยกตัวอย่าง หลังสงครามผาแดง เมื่อโจโฉแตกทัพเรือกลับไปเมืองหลวงแล้ว เล่าปี่และซุนกวน ต่างช่วงชิงยึดดินแดนของแม่น้ำแยงซี เพื่อขยายอำนาจแห่งตน จิวยี่ถือว่าฝ่ายกังตั๋งได้ลงทุนลงแรงในสงครามผาแดงมากกว่าเล่าปี่ จึงมีความชอบธรรมที่จะยึดดินแดนฝั่งเหนือของแม่น้ำแยงซี ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองลำกุ๋น แต่เพื่อไม่ต้องทำสงครามต่อกัน จิวยี่จึงเดินทางไปหาเล่าปี่และแจ้งความประสงค์กับอ้างความชอบธรรมที่กังตั๋งจะยึดเมืองลำกุ๋น พร้อมทั้งต่อว่าต่อขานเล่าปี่ว่าในยามยากลำบากหนีโจโฉมาก็ต้องไปพึ่งซุนกวน ยามนี้ไฉนจะมาแย่งยึดเอาเมืองลำกุ๋นเล่า 

 

ขงเบ้งสมรู้กับเล่าปี่อ้างกับจิวยี่ว่าที่ยกกองทัพมานี้ ก็เพราะกลัวว่าจิวยี่จะยึดเมืองลำกุ๋นไม่สำเร็จ จะทำให้โจโฉเข้มแข็งขึ้นในภาคใต้ต่อไป จึงยกกองทัพมาหวังจะช่วยจิวยี่ ซึ่งเป็นการยั่วยุจิวยี่ให้เกิดมุมานะ และยืนยันว่าเล่าปี่ไม่ต้องมาช่วย กองทัพกังตั๋งสามารถยึกเมืองลำกุ๋นได้แน่นอน จิวยี่โกรธ จึงออกปากว่า ถ้าจิวยี่ยึดเมืองลำกุ๋นไม่ได้ ก็ให้เล่าปี่เข้ายึดต่อไป จึงตกลงกันอย่างนั้น 

 

หลังจากนั้น กองทัพเมืองกังตั๋งก็เข้าล้อมและทำศึกเพื่อยึดเมืองลำกุ๋น ครั้งถึงเวลาหนึ่ง จิวยี่ทำกลอุบายแกล้งตาย และทำพิธีศพในกองทัพ กองทัพเมืองลำกุ๋นไม่รู้กล ก็ยกกองทัพไปปล้นค่ายจิวยี่ ทำให้ทหารรักษาเมืองลำกุ๋นเหลือไม่มากนัก ทำให้ในสถานการณ์นั้น ขงเบ้งอ่านแผนจิวยี่และอ่านกลอุบายของจิวยี่ออก และคาดว่ากองทัพลำกุ๋นจะต้องหลงกลจิวยี่ยกไปปล้นค่ายจิวยี่อย่างแน่นอน จึงแต่งกองทัพไปซุ้มไว้ในป่าใกล้ประตูเมือง เมื่อกองทัพเมืองลำกุ๋นยกออกไปพักหนึ่ง กองทัพของเล่าปี่ก็ปลอมเป็นกองทัพของเมืองลำกุ๋น กลับมาที่ประตูเมืองและร้องให้เปิดประตูเมือง ข้างในเมืองเข้าใจผิดคิดว่ากองทัพเมืองลำกุ๋นกลับมาแล้วจึงเปิดประตูเมือง กองทัพเล่าปี่จึงกรูเข้าเมืองและยึดเมืองลำกุ๋นได้สะดวก 

 

ในขณะที่กองทัพเมืองลำกุ๋นยกไปปล้นค่ายจิวยี่ ก็ถูกกองทัพจิ่วยี่ล้อมตีจนแตกพ่ายหนีกลับจะเข้าเมือง เมื่อมาถึงประตูเมืองก็เรียกให้เปิดประตู กองทัพเล่าปี่ก็โห่ร้องขึ้นเยาะเย้ย ประกาศว่ากองทัพเล่าปี่ยึดเมืองลำกุ๋นได้แล้ว กองทัพเมืองลำกุ๋นจึงต้องหนีกลับไปเมืองหลวง ส่วนกองทัพจิวยี่ไล่ตามกองทัพเมืองลำกุ๋นมา เมื่อมาถึงประตูเมืองจึงทราบว่าเล่าปี่ได้ยึดเมืองลำกุ๋นไปแล้ว ก็โกรธจนแน่นหน้าอก พลัดตกลงจากหลังม้า เพราะหลงกลเล่าปี่ ขงเบ้ง จึงเสียเมืองลำกุ๋นนทั้งที่ได้ลงทุนลงแรงเป็นจำนวนมาก

 

ในศึกเมืองลำกุ๋นนี้ทุกฝ่าย ได้ใช้กลอุบายหลอกลวงล่อลวงกันอย่างเต็มที่ โดยฝ่ายเล่าปี่ขงเบ้งหลอกลวงได้เก่งกว่า และได้ผลที่สุด ดังนั้น จึงกล่าวว่า ไม่มีธรรมะ ในสงคราม

 

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด