การเมือง

ฮุน เซน: จาก “ทุ่งสังหาร” ถึง “โดรนสอดแนม”


13 สิงหาคม 2025, 9:37 น.

 

ฮุน เซน: จาก “ทุ่งสังหาร” ถึง “โดรนสอดแนม”

 

 

กว่าสี่ทศวรรษก่อน โลกได้จารึก “ทุ่งสังหาร” (The Killing Fields) ของกัมพูชา… ช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย ความตาย ความหวาดกลัว เสียงปืน เสียงระเบิด และเสียงร่ำไห้ของผู้สูญเสีย ภายใต้เขมรแดงของ พอล พต 

 

ทหารเขมรแดงนายหนึ่งชื่อ ฮุน เซน หลบหนีระเบิดและกระสุนปืนข้ามพรมแดนไปซบอ้อมอกเวียดนาม ก่อนกลับมาในฐานะนักการเมืองที่ไต่เต้าสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศ

 

แต่ใครจะคิดว่า… ชายผู้เคยรู้จัก “บาดแผลสงคราม” ดีถึงขนาดนั้น เลือกที่จะกลับมาสู่โหมดที่ท้าทายสันติภาพอีกครั้ง

 

1. The Killing Fields – ความจริงที่เจ็บปวดกว่าในหนัง

ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างจากเหตุการณ์จริงในกัมพูชา ช่วงปี 1975–1979 เมื่อเขมรแดง (ภายใต้การนำของ พอล พต) ยึดอำนาจจากรัฐบาลลอนนอล และเปลี่ยนประเทศเป็น “รัฐเกษตรกรรม” แบบสุดโต่ง

 

ภาพยนตร์ The Killing Fields (สร้างเมื่อปี 1984) ไม่ใช่แค่หนังสงคราม แต่มันคือบันทึกเลือดจากยุคเขมรแดง (1975-1979) 

• ประชาชนถูกบังคับออกจากเมือง ให้อพยพไปสู่ชนบทเพื่อทำงานเกษตร

• ปัญญาชนและผู้เห็นต่าง (ผู้มีการศึกษา ข้าราชการ ทหาร หรือแม้แต่คนใส่แว่น ก็ถูกมองว่าเป็นศัตรู) ถูกสังหาร

• ประเทศทั้งประเทศถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นค่ายแรงงานกลางแจ้ง

• มีผู้เสียชีวิตกว่า 1.7 ล้านคน

• มีผู้ลี้ภัยจำนวนมากหนีเข้าสู่ไทย โดยมีค่ายผู้ลี้ภัยชายแดนไทย-กัมพูชารองรับ

 

“ทุ่งสังหาร” กลายเป็นคำที่คนทั้งโลกจำได้ว่า “อุดมการณ์ปลายกระบอกปืน” ทำให้เกิด “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ทุ่งสังหารจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

 

2. ไทย-กัมพูชา 2025… สงครามยุคใหม่

กรกฎาคม 2025 ชายแดนไทย-กัมพูชาปะทะกันรุนแรง มีทั้งการยิงปืนใหญ่ ปืนกลหนัก และการใช้โดรนสอดแนม

• ไทยมีการอพยพพลเรือนหลายแสน

“ทุ่นระเบิด” โดยฝ่ายกัมพูชากลับมาหลอกหลอนชายแดนอีกครั้ง… ทหารไทยได้รับบาดเจ็บหลายราย

• มี “สงครามข้อมูล (Information War)” เกิดขึ้น เมื่อกัมพูชาใช้สื่อโซเชียลบิดเบือนข้อเท็จจริงรายวัน 

 

นี่ไม่ใช่สงครามล้างเผ่าพันธุ์แบบเขมรแดง แต่ก็น่ากลัว… เพราะมันคือ สงครามลูกผสม (Hybrid War) ที่ใช้ทั้งทหาร เทคโนโลยี และข้อมูลโจมตีพร้อมกัน

 

3. บทเรียน 5 ข้อในอดีต ที่ยังใช้ได้

(1) พลเรือนคือผู้จ่ายราคาสูงสุด… ไม่ว่าจะปี 1975 หรือ 2025 คนธรรมดาคือคนที่ต้องหนี ต้องสูญเสีย และต้องเริ่มต้นใหม่

(2) พรมแดนคือเส้นที่บอบบาง… ในหนังเส้นพรมแดนคือทางรอดของดีธ ปราน (Dith Pran นักข่าว/ล่ามชาวกัมพูชา) เขาสามารถข้ามพรมแดนเข้ามาฝั่งไทยได้สำเร็จ สำหรับ ฮุน เซน ในอดีต เส้นพรมแดนคือเส้นทางรอดชีวิตจากทุ่งสังหารหลบหนีไปเวียดนาม แต่ปัจจุบันเส้นพรมแดนคือจุดเสี่ยงที่ปะทุเป็นสงครามใหญ่

(3) ข้อมูลคืออาวุธ… เขมรแดงปิดกั้นข้อมูล แต่ยุคนี้มีการยิงข้อมูลใส่กันแบบไม่หยุด

(4) เทคโนโลยีเปลี่ยนเกม… จากปืน AK สู่โดรนหรืออากาศยานไร้คนขับ (Unmanned Aerial Vehicle หรือ UAV) และสงครามไซเบอร์

(5) อย่าประเมินความตึงเครียดต่ำไป… สงครามใหญ่ในอดีตเริ่มจากการประเมินผิดเพียงครั้งเดียว

 

4. แล้วเราควรทำอย่างไร?

รัฐบาลไม่ควรหวังผลจาก “การเจรจา” มากเกินไป การเจรจาอาจใช้ไม่ได้ผลกับกัมพูชา เพราะ “ไว้ใจไม่ได้” อีกทั้ง ไม่ยอมเจรจาแก้ปัญหาในสิ่งที่ตนทำไว้คือวางทุ่นระเบิดชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อเสนอของไทยให้ร่วมกันกู้ทุ่นระเบิดเหล่านั้นในการประชุม GBC ที่ผ่านมาระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม 2568 ที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อวันที่ 9 และ 12 สิงหาคม 2568 ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ขาขาดวันละ 1 นาย รวม 2 นาย… นี่คือความไร้มนุษยธรรมของผู้นำกัมพูชา

 

5. ของฝากถึง “ฮุน เซน”

ฮุน เซน ควรจำไว้ว่า “ผู้นำที่แท้จริง ไม่ใช่ผู้ที่ชนะศึกด้วยกำลัง แต่คือผู้ที่ชนะใจเพื่อนบ้านด้วยสันติภาพ เพราะถ้าลืมบทเรียนจากทุ่งสังหาร วันหนึ่งประวัติศาสตร์อาจจำท่าน ไม่ใช่ในฐานะผู้นำที่สร้างชาติ แต่เป็นผู้จุดชนวนสงครามครั้งใหม่ในภูมิภาคนี้”

 

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์

อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดการเมือง

เรื่องล่าสุด