สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
ชูธงวิ่งตรงไปข้างหน้า “รัฐบาลอนุทิน” เริ่มนับหนึ่ง เข้าบริหารประเทศ ยืนยัน วันแถลงนโยบาย “บริหารราชการแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต” ช่วง 4 เดือน .. ความนี้ ต้องขีดเส้นใต้หนาสองชั้น “เน้นให้จำขึ้นใจ !”…. 000 เป็นเรื่องแปลก ที่หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน “แพทองธาร ชินวัตร” กลับนิ่งเงียบ ไม่อภิปรายนำ คนแรก ตามธรรมเนียม จึงมองไม่เห็น “วิสัยทัศน์” ผู้นำพรรค ให้สมราคา…ปล่อยให้ “หมอชลน่าน” ออกลีลา เลียบค่าย ..นำร่อง…000 ถึงวันนี้ “พรรคภูมิใจไทย” ยังมี ขบวน สส. พาเหรด “ตบเท้า” เข้าเป็นระยะ…เป็นธรรมดาของนักการเมือง เขตเลือกตั้ง ที่ต้องดิ้นรน “หากระแส เพิ่มกระสุน”.. ขณะที่ “เพื่อไทย” มีเลือดไหล ทะลัก เกิดแรงกระเพื่อมเป็นระลอก !.. 000
รัฐบาลเสี่ยหนู แค่ออกสตาร์ท “รัฐมนตรีคนนอก” ได้โชว์ผลงาน ฝีไม้ลายมือ เป็นที่ประจักษ์ “สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว” รมว.ต่างประเทศ ได้รับเสียงชื่นชม กว้างขวางบนเวทีโลก พร้อมทั้ง “ศุภจี สุธรรมพันธ์” เจ้ากระทรวงพาณิชย์ ที่ชี้แจงนโยบาย “โรดแมป” การทำงาน เป็นระบบ อย่างมีชั้นเชิง มีความน่าเชื่อถือ การแก้ปัญหาระดับชาติ เร่งด่วน 4 เดือน “ประทับใจ”….000 ขณะที่มองไป “รัฐมนตรีหน้าเก่า” เจ้ากระทรวง มัวแต่ปล่อย “วาทะกรรม” ห้ำหั้น ตอบโต้ นํ้าลายท่วมรัฐสภา..“แผ่นเสียงตกร่อง” อยู่ในปลักโคลนการเมือง ไม่สิ้นสุด ! ท่ามกลางการปวดเศียรเวียนเกล้า ของชาวบ้าน ที่ติดตาม ทำเอา “ศรัทธาประชาชน” ลดน้อยถอยลง…. 000
สาวกันไม่จบ “คาสิโน หมอดา” บ่อนการพนัน ที่สร้างรุกลํ้า เขตไทย “จันทบุรี – ตราด” ของกัมพูชา มีคนไทยคนใดเข้าเกี่ยวข้อง ? .. สืบกันไป ค้นกันมารู้ว่า “ออกญา ตรี เพียบ” เศรษฐีกัมพูชา ผู้เคยคุม สัมปทาน การทำป่าไม้ ทั้งหมดในเขมร ร่วมกับ “บุนรานี” ภรรยา “ฮุนเซน” เป็นเจ้าของ โดยร่วมทุนกับ “จีนเทา” หวังพัฒนาพื้นที่ ชายแดนเป็นเมืองใหม่ ในชื่อ “หมอดาซิตี้”..ทุนจีนที่ว่าคือ “บริษัท เหิงเหอ กรุ๊บ” มีนาย “หลี่ เหวินเจ๋อ” เป็นคนลงมือก่อสร้าง ร่วมกับ “ไอ้โม่ง !” คนไทยเข้าไปมีเอี่ยวด้วย.. จึงมีการสร้างถนนราดยางมาตรฐาน กว่า 6 กิโลเมตร จากอำเภอเมืองตราด ปูทางไปสู่ “บ่อนคาสิโนหมอดา” ศูนย์กลาง แห่งอาชญากรรม ทางเทคโนโลยี สร้างแล้วเสร็จ เมื่อ 20 มกราคม 2564… ขณะที่ “บ่อนคาสิโน” ก่อสร้างเสร็จ เมื่อ พ.ศ.2559 ยุค ประเทศไทย มีการ “ยึดอำนาจ” ปี 2557 ….000
คํ่าคืน “ฉันยืนอยู่เดียวดาย” น่าจะเป็นคำรำพึงรำพัน ของใครคนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็น “จ้าวป่า”…มาวันนี้ถึงครา “ป่าแตก !”…นับ เป็นการปิดฉาก ความยิ่งใหญ่ของ “ลุงบ้านป่า” ที่ชื่อ “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” เมื่อเผชิญกับวิกฤติ “นํ้าแยกสาย ไผ่แยกกอ” บรรดา สส. นักการเมือง ต่างตบเท้าตีจากมากราย.. ล่าสุด “สันติ พร้อมพัฒน์” ทิ้งเก้าอี้ เลขาธิการพรรค “พลังประชารัฐ” หอบลูกชาย หิ้วลูกทีม “เพชรบูรณ์ 6 คน” ไปเตรียมสู้ศึก เลือกตั้งครั้งหน้า ในสีเสื้อนํ้าเงิน “เรียบร้อย”….000 ก่อนหน้านั้น สส.ภาคใต้ “นายทวี สุระบาล” ก็นำลูกทีม แห่ซบ “พรรคภูมิใจไทย” เป็นกลุ่มแรกๆ..“พรรคพลังประชารัฐ” ยามนี้ คงเหลือ หัวหน้าพรรค ยืนโด่ เดียวดาย…ทีพอมีประปราย..กบดานที่เดิม เพื่อรอวันเวลา “พระราชกฤษฏีกายุบสภา” ประกาศออกมาเมื่อไร..จะเห็น การเลื้อย ตีจาก “ยุ่บยั่บ !” สู่พรรคเนื้อหอม อย่างแน่นอน..กล่าวกันว่า เลือกตั้งครังหน้า “น่าเหลือเพียงแต่ชื่อ” .. ปิดสวิทซ์ “ลุงป้อม” ไร้เยื่อใย ..ใจย่อมไม่บันดาลแรง “นั่งกลืนเลือด” เดียวดาย….000 วันนี้แม้มนต์ขลัง บ้านป่าฯ จะหมดราคา เหมือน “ยาหมดอายุ” แต่ยังมี กองเชียร์ เอาใจช่วย “ลุงป้อม” อยู่ไม่น้อย ข่าวว่าเจ้าตัว “ยังไม่โยนผ้า” แต่จะขึ้นเป็นที่ปรึกษาพรรค มอบเก้าอี้ประมุข ให้สุภาพสตรี “ตรีนุช” คุมบังเหียน…ประมาทมิได้ ต้องจับตา สำนวนไทย “ยิ่งนานยิ่งเก๋า ยิ่งเฒ่า ยิ่งขลัง” ยังดำรงความหมาย อยู่แค่ไหน….000