“อนุทิน” สั่งการจังหวัด และกรุงเทพมหานคร ติดตามสภาวะอากาศพายุ “คัลแมกี” ย้ำต้องสื่อสารกับพี่น้องประชาชนทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที พร้อมสแตนบายสายด่วน 1784 ระบแจ้งเหตุและช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง

3 พ.ย. 68 เวลา 19.30 น. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยในฐานะรองผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างต่อเนื่อง และนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีข้อสั่งการให้ ปภ. ดำเนินมาตรการตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการติดตามเส้นทางเคลื่อนตัวของ “พายุคัลแมกี” เนื่องจากทิศทางและกำลังของพายุยังมีการเปลี่ยนแปลงต่อเนื่อง โดยเมื่อบ่ายวันนี้ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่นและกำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก คาดว่าจะเคลื่อนผ่านตอนกลางประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ และจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้ฝั่งประเทศเวียดนาม โดยเมื่อขึ้นฝั่งแล้วจึงจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศไทยตอนบน นอกจากนี้ในห้วงสัปดาห์นี้ ในหลายพื้นที่ทั่วทุกภาค รวมถึงกรุงเทพมหานคร ต้องเผชิญกับสถานการณ์ฝนตกหนัก

กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และประสานกรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ และ “สื่อสารกับพี่น้องประชาชนทุกช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที” พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมเครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยให้มีความพร้อมใช้งาน โดยมีศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ระดับต่าง ๆ ทำหน้าที่อำนวยการระดมสรรพกำลังให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัย รวมทั้งการบริหารจัดการอำนวยความสะดวกประชาชนทั้งเส้นทางจราจร การเดินทาง

สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่เขตเศรษฐกิจของจังหวัด ต้องเร่งกำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ และติดตั้งเครื่องมือสำหรับการระบายน้ำอย่างเต็มกำลัง และเฝ้าระวังความปลอดภัยของป้ายโฆษณา สิ่งก่อสร้าง ไม้ยืนต้นหรือโครงสร้างพื้นฐาน หากบริเวณใดมีความเสี่ยงที่จะโค่นล้มหรือพังทลาย ต้องประกาศห้ามสัญจรหรือห้ามประชาชนพักอาศัยบริเวณดังกล่าว และสำหรับพื้นที่ที่มักเกิดเหตุน้ำท่วมขัง น้ำท่วมสูง จนยานพาหนะไม่สามารถใช้เดินทางได้ หรือประชาชนไม่สามารถเดินทางสัญจรได้ อาทิ ถนน ตรอก ซอย ต้องจัดทำป้ายแจ้งเตือนหรือสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายแจ้งเตือนให้ประชาชนผู้สัญจรและผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะจากกระแสไฟรั่ว และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรรวมถึงอาสาสมัครต่าง ๆ ได้อำนวยความสะดวกในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานงานวิทยุชุมชน และวิทยุกระจายเสียงคลื่นหลัก รวมถึงสื่อโซเชียลมีเดีย ได้ร่วมกันสื่อสารแจ้งความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสภาพอากาศและการจราจร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

สำหรับพื้นที่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบด้านการดำรงชีพ ต้องจัด เจ้าหน้าที่ได้ดูแลการใช้ชีวิตปัจจัย 4 มอบถุงยังชีพและข้าว อาหารสำเร็จรูป รวมถึงน้ำดื่มตามวงรอบอย่างต่อเนื่อง และเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่คลี่คลายแล้ว ให้เร่งสำรวจความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นให้ครอบคลุมทุกด้าน และดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยเร็วและทั่วถึง โดยพี่น้องประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและแจ้งขอรับความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัยหมายเลข 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง














	


