สังคม “ลมใต้ปีก” ประจำวันอังคารที่ 7 ตุลาคม พุทธศักราช 2568
กล่าวโดยทั่วไป “พรรคภูมิใจไทย” อยู่ในสถานะ พร้อมลงสนามเลือกตั้ง มากที่สุดพรรคหนึ่งเวลานี้..ทั้ง “บ้านใหญ่” และ “ฐานเสียง” ที่มั่นคงหลายภูมิภาค เป็นจุดรวม บุคคลากรการเมืองมากประสบการณ์.. แถมมีกลไกรัฐอยู่ในมือ…. 000 พูดได้ว่า พรรคสีนํ้าเงิน อยู่ในช่วง ปรับทิศทางโครงสร้าง ช่วงชิงการนำฝ่าย “อนุรักษ์นิยม” อย่างเต็มรูปแบบ รวมตัวอย่างมีพลัง..แม้ยังมีคำถาม “รัฐมนตรีสีเทา” ที่เป็นเงา อยู่ในครม. บ้างก็ตาม… 000
ที่เผชิญหน้า “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” อยู่ขณะนี้ คือปัญหา ประชามติ “MOU” ลูกพ่วง ของ “ภูมิใจไทย” ที่วิพากย์กันว่า “เอาอธิปไตย ชาตินิยมใส่เกมเลือกตั้ง หรือไม่ ?”….000 ปัญหาข้อพิพาทชายแดน “ไทย-กัมพูชา” เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ในความรู้สึกของคนไทย คำพูดผิดพลาด เพียงเล็กน้อย ย่อมกระทบกับความรู้สึกเร็วมาก “กองทัพทัวร์” อาจลงถล่มง่ายๆ… จากท่าที ที่เปลี่ยนไป เจตนา “ผลักภาระ” ไม่กล้าตัดสินใจของ “อนุทิน ชาญวีรกูล” แสดงให้เห็นถึง “ความไม่กล้าหาญ” อาจถูกมอง ถึงความไม่เข้มแข็ง เด็ดขาด.. งานนี้ เจ้าของไอเดียประชามติ “ดร. บวรศักดิ์ อุวรรณโณ” รองนายกฯ ฝ่ายกฏหมาย หนีไม่พ้น “ต้นคิด” ความรับผิดชอบ….00 ประเด็นที่ “นิด้าโพล” ทำแบบสอบถาม การยกเลิก “MOU 43” ในสายตาประชาชน พบว่าชาวไทยส่วนใหญ่ “ไม่เข้าใจความซับซ้อนดังกล่าวเลย!” … ดังนั้นการที่ “นายอนุทิน ชาญวีรกูล” นายกรัฐมนตรี มีท่าทีเสนอให้ “ลงประชามติ” อ้างว่าให้ประชาชน มีส่วนร่วม.. จะแฝงนัยยะ หรือมีนํ้าหนักแค่ไหน ?… ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ “ผลักภาระ” ให้ประชาชน ทั้งๆ ที่ เป็นอำนาจของ คณะรัฐมนตรีตัดสินใจ “ยกเลิกได้ !”….000
“ข่าวลือ” เป็นเรื่องปกติ แต่การนำ “ข่าวลือ” ให้เป็น “ข่าวจริง” นั้น “ผิดปกติ !”…ยามนี้ กองเชียร์ “เสื้อแดง” ต่างตั้งตารอ การขอพระราชทานอภัยโทษซํ้า อดีตนายก “ทักษิณ” ครั้งที่ 2 ว่า มีความคืบหน้าแค่ไหน ? ..ผู้รู้ระบุว่า การยกฏีกาของกระทรวงยุติธรรมนั้น เป็นธรรมเนียมปฏิบัติ ตาม ม.259 มาตลอด ตั้งแต่ “รองวิษณุ เครืองาม” เป็ปฐมบท… จากนี้ไป “ทักษิณ” มีโอกาส จะได้รับพระราชทานอภัยโทษ กรณีเดียวเท่านั้น… คือต้องแตะมาตรฐาน “1 ใน 3” ก่อน ..ต้องถึง วันที่ 8 มกราคม หรือ “ต้นปีหน้า” จึงเข้าเกณฑ์ ยื่นขออภัยโทษ ในวาระต่างๆ ได้อย่างไม่มีเงื่อนไข !.. ส่วนจะมีบรมราชวินิจฉัย อย่างไรนั้น มิอาจก้าวล่วง …000
“ทักษิณ” ตัดสินใจ หวนกลับมารับโทษครั้งนี้ มีเป้าหมาย เอาตัวเองเป็นเดิมพัน “ระยะสั้น !” อีกทั้งหวังคะแนนสงสาร ให้แตกตัว!… ที่สำคัญ เขาห่วงคดีเรื่อง “ลูกสาว กับน้องสาว” มากที่สุด ! … ยังมีความมั่นใจลึกๆ “ด้วยทรัพย์สินเงินทองมหาศาล” เป็นปัจจัยหลักจะสามารถ คุมสถานะ “การเมืองไทย” ให้กลับมาอยู่ใน สมการใหม่ได้.. “เมื่อมีอำนาจ” ก็สามารถได้แนวร่วม “บันดาลอิทธิฤทธิ์” อีกครั้ง… 00 การตัดสินใจ ในอดีตบางช่วง.. ทำให้เกิดช่องว่าง และผิดพลาดในทางยุทธศาสตร์ หลายเรื่อง…ความหมายคือ “เดินหมากพลาดตาเดียว พ่ายแพ้เกือบสุดกระดาน !”..00 บทเรียนราคาแพง จำต้อง “ดัดแปลง” ในแวดล้อม อันจำกัด.. เพื่อสร้าง “ผู้นำคนใหม่” แตกแบ๊งค์พันใหม่ กอบกู้พรรค รักษาฐานเสียง สิบกว่าล้านเสียงไว้ให้ได้ “ซึ่งไม่ง่ายนัก !” ที่ “เพื่อไทย” จะกลับมา ดังคำ โฆษณา… 000
“รวมดาวรุ่นเก่า” หันหัวเรือกลับ “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นขบวน ล้วนแต่รุ่นเหนียงยาน “เก๋ากึ๋ก !” ขานรับ การกลับมาของ “เดอะมาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ..หลังการเจรจาลงตัวกับอดีต หน.พรรค ที่ “หัวหิน” เพื่อกอบกู้ศรัทธา ภาพลักษณ์กลับคืนมา… แต่ไม่รู้ว่า คนหน้าเดิมขิงแก่ จะมาช่วยแก้ปรับ “แนวทางใหม่” ได้แค่ไหน ? เพราะสถานะการณ์บ้านเมือง เดินไปใกลกว่าที่คิด… 000 “ประชาธิปัตย์” วันนี้ อยู่บนทางแยกสำคัญ ระหว่าง “คนรุ่นใหม่” กับ “คนรุ่นเก่า” การหวนกลับมาของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ผู้นำเชิงหลักการ แม้จะเคี่ยวกรำ เดินบนเส้นทางการเมือง อย่างโชกโชน มีอิสระ บนความเชื่อมั่น แน่วแน่ ยาวนาน.. แต่จะเปลี่ยน “หลักการ” แปรเป็น “พลังปฏิบัติ” ได้จริงหรือไม่ ? …000 มองไปยังการ สไลด์ตัวของ “ชัยชนะ เดชเดโช” สส.สายใต้ บนเก้าอี้ แม่บ้าน “เลขาธิการพรรค” ด้วยบารมี และท่าที ยังห่างชั้น ห่างใกล กับ “เสธฯหนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาจน์ และ “กำนัน สุเทพ เทือกสุบรรณ” อดีตเลขาธิการพรรค ฝ่ายบู๊ อีกหลายก้าว… 000 อย่างไรก็ตาม “ประชาธิปัตย์” สูงสุดสู่สามัญ ตกตํ่า ขึ้นลง หมุนเวียน เหมือนชิงช้าสวรรค์..ต้องติดตามให้กำลังใจ… เพราะ “หลังฝนซา ท้องฟ้ามัก แจ่มใส!”
.
Cr. ขอบคุณเจ้าของภาพ