ไฮไลท์

ไทย-กัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงเพื่อนำไปสู่สันติภาพ โดนัลด์ ทรัมป์ – อันวาร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน


27 ตุลาคม 2025, 10:30 น.

 

ไทย-กัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงเพื่อนำไปสู่สันติภาพ โดนัลด์ ทรัมป์ – อันวาร์ ร่วมเป็นสักขีพยาน

 

(26 ตุลาคม 2568) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ณ ศูนย์การประชุมกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นประธานเปิดการประชุมอย่างเป็นทางการ ร่วมด้วยผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศคู่เจรจา และองค์การระหว่างประเทศ

 

นายอันวาร์ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณนายกรัฐมนตรีของไทย ที่แสดงวิสัยทัศน์และความกล้าหาญในการผลักดันกระบวนการสันติภาพชายแดนไทย–กัมพูชา ด้วยแนวทางทางการทูต จนนำไปสู่การลงนามถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ว่าด้วยผลการหารือระหว่างผู้นำทั้งสองประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งจะเป็นสัญลักษณ์สำคัญของ “สันติวิธีแบบอาเซียน” ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นรูปธรรม

 

ระหว่างการประชุม นายอนุทินได้หารือทวิภาคีกับนายอันโตนิอู กุแตเรซ เลขาธิการสหประชาชาติ โดยไทยชื่นชมบทบาทของสหประชาชาติในการธำรงสันติภาพโลก และได้เสนอ “Complementarities Initiative 2.0” เพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในภูมิภาคอาเซียน

 

นอกจากนี้ ยังได้หารือกับนายแฟร์ดีนันด์ มาร์โคส ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเกษตร ดิจิทัล การท่องเที่ยว และการแพทย์ พร้อมยืนยันไทยสนับสนุนฟิลิปปินส์ในการเป็นประธานอาเซียนปี 2569

 

ในการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสุดยอดอาเซียน นายอนุทินเน้นย้ำ 3 แนวทางสำคัญของไทย ได้แก่

  1. การสร้างประชาคมอาเซียนที่มั่นคงปลอดภัย
  2. การพัฒนาเศรษฐกิจที่ครอบคลุมและยั่งยืน
  3. การเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค

พร้อมแสดงความยินดีต่อมาเลเซียในฐานะประธานอาเซียนปีนี้ และให้คำมั่นสนับสนุนฟิลิปปินส์ในการรับช่วงต่อ

 

ภารกิจสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ การร่วมลงนาม “ถ้อยแถลงผลการหารือระหว่างนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรไทยและนายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรกัมพูชา” โดยมีนายโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยาน

 

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวยกย่องผู้นำทั้งสองประเทศที่เลือกแนวทางสันติ ยุติการสู้รบและลดการสูญเสียชีวิต พร้อมขอบคุณมาเลเซียที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางการเจรจา

 

ขณะที่นายอนุทิน ระบุว่า การลงนามครั้งนี้ถือเป็น “หมุดหมายสำคัญแห่งสันติภาพ” ระหว่างไทย–กัมพูชา ซึ่งจะเป็นรากฐานของการฟื้นฟูความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นระหว่างกัน โดยเฉพาะการถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน และการปล่อยตัวทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัว 18 นาย เพื่อสร้างความไว้วางใจและยุติความขัดแย้งอย่างยั่งยืน

 

นายกรัฐมนตรีไทยย้ำว่า “สันติภาพที่แท้จริงคือสันติภาพที่มาพร้อมศักดิ์ศรีของประชาชน” และมั่นใจว่าข้อตกลงครั้งนี้จะเปลี่ยนผ่านความขัดแย้งให้กลายเป็นความร่วมมือได้อย่างแท้จริง

 

ในการประชุม ยังมีการประกาศ “แถลงการณ์ร่วมว่าด้วยกรอบความตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐฯ–ไทย” และบันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือแร่ธาตุสำคัญ (Critical Minerals MOU) เพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนของห่วงโซ่อุปทาน

 

สาระสำคัญของถ้อยแถลงร่วมไทย–กัมพูชา (Joint Declaration)

  1. ยืนยันความมุ่งมั่นต่อสันติภาพ ความมั่นคง และการแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติ เคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกัน
  2. เดินหน้าดำเนินการตามข้อตกลงจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC)
  3. เห็นชอบจัดตั้ง “ทีมผู้สังเกตการณ์อาเซียน (ASEAN Observer Team : AOT)” เพื่อกำกับดูแลการหยุดยิงอย่างเป็นทางการ
  4. เห็นพ้องในมาตรการลดความตึงเครียด เช่น การถอนอาวุธหนักออกจากแนวชายแดน การยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ และการสร้างความเชื่อมั่นร่วมกันผ่านความร่วมมือและมิตรภาพ
  5. ไทยจะปล่อยเชลยศึกโดยพลันเมื่อมาตรการดังกล่าวดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ถือเป็นการยุติความเป็นปรปักษ์อย่างสมบูรณ์
  6. ส่งเสริมความร่วมมือในการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติ และการตรวจสอบควบคุมแนวชายแดน
  7. ยืนยันการแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ภายใต้กฎบัตรสหประชาชาติและอาเซียน
  8. ทั้งสองฝ่ายเชื่อมั่นว่าการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และมาเลเซีย จะเป็นรากฐานสำคัญของสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค

 

Cr. ขอบคุณข้อมูลจาก กรมประชาสัมพันธ์, Thaigov.co.th

ข่าวในหมวดเดียวกัน

เพิ่มเติม...

การเมือง

คอลัมนิสต์

คมในความ

มหาราษฎร์ Shorts

ภาพเก่าเล่าอดีต

ไฮไลท์

ข่าวประชาสัมพันธ์

ตำรวจ ทหาร อัยการ ศาล คุก

ท่องเที่ยว

ศาสนา

สุขภาพ

แวดวงนักรบ

สังคม

บทบาทบุคคล

< กลับหมวดไฮไลท์

เรื่องล่าสุด