เชื่อหรือไม่ ?
อ่านบทนำแล้ว อาจไม่เชื่อ ! เพราะ มันเหลือเชื่อจริง ๆ !
กรมการปกครอง ตั้งกิ่ง อ. มีปลัดอำเภอเป็น หน.กิ่ง อ. มีกำลังพลพร้อมเพียง มีสถานที่ทำงาน มีอุปกรณ์การทำงาน
ตำรวจก็ไม่น้อยหน้า มีคำสั่งตั้ง สภ.กิ่ง อ. ทันที มี สว. เป็น หน.สภ.กิ่ง อ. แต่…..
ไม่มีที่ทำงาน
ไม่มีโรงพัก
ไม่มีโต๊ะ
ไม่มีเก้าอี้
ไม่มีอุปกรณ์การทำงาน
กำลังพล ดึงมาจากตำรวจสายตรวจประจำตำบลแห่งหนึ่งในเขต กิ่ง อ.
<ห้วยราช 1>
<ตอนที่ 1>
ผมดำรงตำแหน่งเป็น รอง สวส., รอง สว.จร., รอง สวป., รอง สว.ทพ. รวมเป็น รอง สว. 11 ปี จึงได้เป็น สว.
ตำแหน่งแรกคือ สวส.สภ.เมืองบุรีรัมย์
ในช่วงนั้น ภ.จว.บุรีรัมย์ มี รอง ผบก.เป็น หน.ภ.จว. 1 คน ผกก.เป็น รอง หน.ภ.จว. 2 คน สวญ. และ สว. เป็น หัวหน้า สภ. เหมือนกันทุก ภ.จว.ในการประชุมข้าราชการตำรวจ ภ.จว.บุรีรัมย์ ครั้งแรก ของผม หน.สภ. และ สว. งานต่าง ๆ ทุกคนมาประชุม
ผมได้เสนอขอเปลี่ยนสัญญาณเรียกขานตำรวจสายตรวจ จากคำว่า<พิทักษ์>เป็นชื่ออื่นแทน สายตาทุกคู่มองมาที่ผม ด้วยความรู้สึกหลากหลาย
เพราะสัญญาณเรียกขานว่า<พิทักษ์> นี้ใช้กันมานานหลายปีแล้ว
ผมอธิบายว่า
<พิทักษ์>คือสัญญาณเรียกขานของ<ตร.>เช่น อ.ตร.สัญญาณเรียกขานว่า พิทักษ์ 1
ปรากฎว่าทุกคนถึงบางอ้อ เข้าใจ และเห็นชอบตามข้อเสนอ
ในที่สุด ที่ประชุมก็มีมติเปลี่ยนเป็น<อินทรี>เพื่อให้เกียรติ พล.ต.ท.บุญทิน วงศ์รักมิตร ผบช.ภ.2 <ปัจจุบัน ภ.3>ฉายาท่านคือ<อินทรีอีสาน>
ผมเป็นสารวัตรใหม่ไฟแรง ทั้งรับแจ้งความร้องทุกข์และสืบสวนจับกุมด้วยตนเอง
เจอแจ็คพ็อต คดี<แชร์> หรือข้อหาแบบเป็นทางการว่า <การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน>ผู้ต้องหาชื่อนางโพะ
พฤติกรรมคือ รับฝากเงิน และรับฝากทองคำ สมมติว่า ฝากเงินจำนวน 1,000 บาท หรือรับฝากทองคำ หนัก 1 บาท ภายใน 7 วัน จะได้เงินหรือทองคำเพิ่มขึ้นหนึ่งเท่าตัว
เป็นแบบลักษณะแชร์ลูกโซ่ทั่วไป เอาเงินหรือทองของคนที่ลงทุนทีหลังมาจ่ายคนที่ลงทุนก่อนนี้
นอกจากนั้น นางโพะ ยังตั้งตนเป็นหมอวิเศษรักษาโรคได้ทุกโรค
จากการตรวจค้นและตรวจสอบทรัพย์สิน มีเงินสด เป็นธนบัตรรัฐบาลไทยชนิดต่าง ๆ อยู่ใต้ที่นอนนางโพะ ประมาณ 70,000 บาทเศษ มีบัญชีเงินฝากธนาคารหลายแห่ง มีเงินหมุนเวียนจำนวนมากทุกบัญชี มีทั้งรถยนต์กะบะ และรถจักรยานยนต์ใหม่ ส่วนบ้านญาติ ๆ นางโพะ ก็เพิ่งซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่อีกบ้านละคันสองคัน
ที่สะดุดใจคือ พบแผ่นกระดาษ มีชื่อของข้าราชการนักกฎหมายใหญ่พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ อยู่ในสมุดจดรายการของนางโพะ ด้วย
นางโพะถูกควบคุมตัวที่ห้องควบคุม สภ.เมืองบุรีรัมย์ มีกลุ่มมวลชน นัยว่ายังเชื่อถือนางโพะอยู่ ไปเฝ้าบริเวณหน้าโรงพัก กว่า 300 คน จะเอานางโพะไปสอบสวนหรือพิมพ์มือกลุ่มมวลชนก็จะแห่กันไปบนโรงพักทำให้สอบสวนไม่ได้ พิมพ์มือไม่ได้
ผมต้องใช้ยุทธวิธีในคืนที่สอง เวลาประมาณ 03.00 น. เศษ ผมไปที่ สภ.เมือง กลุ่มมวลชนที่พากันเฝ้าหน้าโรงพัก หลับกันหมดแล้ว ผมบอกสิบเวร ให้นำตัว นางโพะ ออกมาจากห้องควบคุมเงียบ ๆ พาขึ้นไปที่ห้องทำงานของผม ชั้นสอง ให้สิบเวรนั่งอยู่ด้วย ให้ยาม สภ. ทำหน้าที่แทนสิบเวรที่ชั้นล่าง
ผมสอบสวนนางโพะด้วยตนเอง ให้การรับสารภาพ มีรายละเอียดพร้อมพยานหลักฐานชัดเจน
วันต่อมา มีคนของนักการเมืองใหญ่มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ถูกผู้ใหญ่กว่าใช้มา ติดต่อเพื่อจะขอประกันตัวนางโพะแต่ผมได้คัดค้านด้วยเหตุผลตามกฎหมายและพูดด้วยว่า<ผู้เสียหายเป็นชาวบ้านยากจนหลายร้อยคน ทำไมไม่มีใครคิดช่วยเหลือดูแลกลับคิดแต่จะช่วยเหลือ ผู้ต้องหาที่หลอกลวงผู้อื่นเพียงคนเดียว>
ผู้มาติดต่อเหล่านั้น คงเห็นว่ายื่นประกันไปก็ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไร พอรู้ว่าผมคัดค้าน และฟัง คำพูดผมก็ถอยกลับหมด ไม่มีใครยื่นประกันแต่อย่างใด
ผลหรือครับ ผมถูก หน.ภ.จว.เรียกตัวไปพบและพูดว่า<คุณใหญ่นักหรือ ? แน่มาจากไหน ? ถ้าไม่ให้ประกันก็เสนอขึ้นมา ผมเซ็นเอง>
จากนั้น ก็มีคนมายื่นขอประกันตัวนางโพะ อีก ผมยังมีความเห็นคัดค้านตามข้อกฎหมาย เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก็สุดแท้แต่ดุลยพินิจของผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจ
ต่อมา สภาจังหวัดบุรีรัมย์ จัดการประชุม และบรรจุวาระหนึ่ง ให้ผมไปชี้แจงรายละเอียดเรื่องการจับกุมและสอบสวนนางโพะ
ก่อนถึงวาระของผม มีข้าราชการนักกฎหมายใหญ่ คนที่มีเบอร์โทรศัพท์ในแผ่นกระดาษในสมุดจดรายการของนางโพะ และนายตำรวจ คนสนิทของ หน.ภ.จว. เดินมานั่งข้างผม พากันกระซิบกระซาบว่า<สารวัตรใจเย็น ๆ นะ>
ผมตอบคำถามของสมาชิกสภาจังหวัด แบบตรงไปตรงมา แต่…ไม่ฟาดฟันใคร เพราะไม่ใช่นิสัย คิดแต่เพียงว่า กรรมใดใครก่อ ก็รับไป
ผมมาทราบภายหลังว่า <นางโพะ> คือ <คนของหัวคะแนนใหญ่คนหนึ่ง>
ต่อมา มีข่าวลือหนาหูว่า จะมีการตั้ง กิ่ง อ. แห่งใหม่ และจะมีการตั้ง สภ.กิ่ง อ. สารวัตรไอยศูรย์ จะโดนย้ายจาก สภ.เมือง ไปอยู่ที่ สภ.กิ่ง อ. แห่งใหม่นั้น
จบตอนที่ 1
พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาท