กรมพัฒนาธุรกิจฯ คิ๊กออฟหลักสูตร…ปั้น 52 แฟรนไชส์สัญชาติไทย ประจำปี 2568 ยกระดับสู่มาตรฐานสากลตามแบบฉบับ Franchise Standard
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คิ๊กออฟหลักสูตร Franchise Standard ปี 2568 คัดเลือก 52 แฟรนไชส์ไทย 6 ประเภทธุรกิจ เพื่ออัพเลเวลสู่มาตรฐานสากล ภายใต้โครงการ Franchise Standard ธุรกิจทั้งหมดจะผ่านเส้นทางการเคี่ยวอย่างเข้มข้นตลอดระยะเวลาเกือบ 5 เดือน เริ่มต้นจากบ่มเพาะความรู้ที่จะทำให้ธุรกิจสามารถยืนได้บนมาตรฐานแฟรนไชส์ การเชื่อมโยงเครือข่ายทางธุรกิจ ตลอดจนมีที่ปรึกษาลงพื้นที่จริงให้คำแนะนำและประเมินแต่ละธุรกิจซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาและพัฒนาได้ตรงจุด การเข้าดูงานธุรกิจต้นแบบเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ สุดท้ายธุรกิจที่ผ่านการประเมินจะได้รับประกาศนียบัตรการันตีมาตรฐานคุณภาพ สิทธิประโยชน์ต่างๆ และออกไปโลดแล่นขยายแฟรนไชส์ได้ต่อไป
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ดำเนินโครงการ Franchise Standard มาต่อเนื่องกว่า 16 ปี ตั้งแต่ปี 2552-2568 ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จะยกระดับมาตรฐานคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจแฟรนไชส์ เพิ่มความเข้มแข็งให้ธุรกิจแฟรนไชส์ไทยสามารถบริหารธุรกิจได้ แบบเป็นระบบ ที่สำคัญพัฒนาธุรกิจไปสู่มาตรฐานคุณภาพระดับสากลได้ โดยในปี 2568 มี 52 ธุรกิจที่ผ่านการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาแฟรนไชส์เข้าสู่มาตรฐานที่เป็นสากล แบ่งเป็น 6 ประเภทธุรกิจ ดังนี้ อาหาร 22 ราย เครื่องดื่ม 12 ราย บริการ 10 ราย การศึกษา 4 ราย ค้าปลีก 2 ราย และความงาม/สปา 2 ราย
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า “สำหรับกิจกรรมที่ 52 แฟรนไชส์จะได้รับการพัฒนาตลอดระยะเวลา 5 เดือน (มิ.ย.-ต.ค 68) เริ่มต้นจากกิจกรรมแรกการสร้างองค์ความรู้ด้านมาตรฐานคุณภาพ (ระหว่างวันที่ 16,23,25 มิ.ย.68) เป็นการอบรมปูพื้นฐานเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาธุรกิจตามเกณฑ์มาตรฐานแฟรนไชส์ (Total Quality Franchise Management-TQFM) จากนั้นเข้าสู่กิจกรรมเชื่อมโยงเครือข่าย (14 ก.ค. 68) เพื่อแลกเปลี่ยน องค์ความรู้ เพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ และต่อยอดธุรกิจในอนาคต ไฮไลท์ของโครงการนี้คือ การลงพื้นที่ให้คำปรึกษา ณ สถานประกอบการของทั้ง 52 ราย จำนวน 2 ครั้ง (ระหว่างเดือนก.ค-สค. 68) ผู้ประกอบการจะได้รับแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านแฟรนไชส์และการบริหารจัดการธุรกิจแบบตัวต่อตัวในลักษณะ on the job training เข้าถึงทุกปัญหาที่ธุรกิจกำลังเจอ พร้อมให้แนวทางต่อยอดธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้ภายใต้บริบทที่มีความแตกต่างกันของแต่ละธุรกิจ เมื่อธุรกิจได้ข้อเสนอแนะที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนเองจะต้องนำไปปรับใช้ให้เห็นเป็นรูปธรรม โดยผู้เชี่ยวชาญจะลงพื้นที่เพื่อตรวจประเมินธุรกิจอีกครั้งว่าพบอุปสรรคหรือสามารถดำเนินการตามแผนที่วางไว้ได้หรือไม่ ทำให้เมื่อจบกิจกรรมนี้แล้วธุรกิจสามารถนำเอาความรู้ทั้งหมดไปดำเนินการพัฒนาในธุรกิจได้ทันที และในช่วงเดือน ต.ค.68 กรมฯ จะพาไปศึกษาดูงาน ณ ธุรกิจแฟรนไชส์ต้นแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมต่อยอดแนวความคิดจากธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแล้วมาใช้ในธุรกิจแฟรนไชส์ของตนเอง
ก่อนปิดโครงการ Franchise Standard ประจำปี 2568 ธุรกิจที่ผ่านการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญและผ่านเกณฑ์มาตรฐานจากกรมฯ จะได้รับประกาศนียบัตร (พิธีมอบฯ กำหนดจัดช่วงเดือน ต.ค.68) พร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย อาทิ การใช้ตราสัญลักษณ์ DBD Franchise Standard เพื่อการันตีธุรกิจ เป็นระยะเวลา 3 ปี (นับแต่วันที่ออกหนังสือรับรอง) สิทธิในการได้รับเลือกเพื่อออกบูธงานแฟรนไชส์ที่จัดขึ้นโดยกรมฯ หรือพันธมิตรของกรมฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย การประชาสัมพันธ์ธุรกิจผ่านสื่อต่างๆ ของกรมฯ และในปีนี้ยังมีความพิเศษเพิ่มเติมคือ สิทธิประโยชน์ด้านสินเชื่อจากสถาบันการเงิน SME D Bank ที่ธุรกิจสามารถขอสินเชื่อเพื่อขยายธุรกิจได้ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษอีกด้วย
นอกจากนี้ สำหรับธุรกิจที่เคยผ่านการเข้าร่วมโครงการ Franchise Standard ที่สามารถบริหารจัดการระบบธุรกิจจนเป็นมืออาชีพแล้ว ประกอบกับมีความพร้อม และมีศักยภาพในการขยายโอกาสสู่ตลาดต่างประเทศ สามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาธุรกิจแฟรนไชส์ไทยก้าวสู่สากล (Thai Franchise Towards Global) เพื่อร่วมไปออกบูธแสดงธุรกิจในงาน Franchise Expo Malaysia ระหว่างวันที่ 21-23 สิงหาคม 2568 ณ ประเทศมาเลเซีย โดยธุรกิจที่สนใจสามารถศึกษาและติตดามรายละเอียดของกิจกรรมได้ทาง http://www.dbd.go.th ” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย