คต. เพิ่มแต้มต่อ-สร้างโอกาส ดันผู้ส่งออกใช้ Self-Certification เพื่อรับสิทธิพิเศษทางการค้าอย่างเต็มที่
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เร่งจัดฝึกอบรมสัมมนาเพิ่มช่องทาง Self-Certification ดันให้ผู้ประกอบการใช้สิทธิพิเศษทางการค้าอย่างเต็มที่ เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขัน ตามนโยบายพาณิชย์ Quick Big Win

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ ได้มีนโยบาย Quick Big Win ในการผลักดันให้ผู้ประกอบการได้ใช้สิทธิพิเศษทางการค้าจากกรอบความตกลงทางการค้า (FTA) อย่างเต็มที่ เพื่อเป็นแต้มต่อทางการค้า และเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของสินค้าไทย โดยกรมการค้าต่างประเทศ (คต.) มีกำหนดจัดฝึกอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ เรื่อง การรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Self-Certification) เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า เพิ่มแต้มต่อทางการค้า ส่งเสริมการใช้สิทธิพิเศษทางภาษี และสร้างโอกาสด้านการแข่งขันให้สินค้าไทยในตลาดโลกในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 และ 7 พฤศจิกายน 2568 ณ ศูนย์ฝึกอบรมมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ โดยผู้ประกอบการจะได้ทดลองใช้ระบบจริงที่ได้พัฒนาขึ้นใหม่ สำหรับขั้นตอนการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกที่ได้รับสิทธิฯ และการรายงานข้อมูลการส่งออก รวมทั้งสามารถขอคำปรึกษาแนะนำจากเจ้าหน้าที่ได้อย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้มีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าจากการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองให้มากขึ้น
นางอารดาฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า คต. ดำเนินการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยกระดับการให้บริการ และเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับการพัฒนาระบบการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Self-Certification) เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกรับอนุญาต (Approve Exporter) เพื่อทำการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองลงในเอกสารทางการค้าได้ ณ สถานประกอบการ ซึ่งเป็นวิธีการที่สะดวกรวดเร็ว ลดภาระขั้นตอน และลดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ผู้ส่งออกสามารถดำเนินการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองได้ 3 กรอบความตกลง ได้แก่
1) ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Wide Self-Certification)
2) ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) และ
3) ตามความตกลงการค้าเสรีอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ (AANZ)
นอกจากนี้ยังสามารถขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ของสวิสเซอร์แลนด์และนอร์เวย์ (REX System) ซึ่งระบบดังกล่าวจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการส่งเสริมการใช้สิทธิพิเศษทางการค้าและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการไทยให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นต่อไป

นางอารดาฯ กล่าวช่วงท้ายว่า การจัดฝึกอบรมสัมมนาการรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเอง (Self-Certification) ในครั้งนี้ถือเป็นการเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการเข้าใช้งานระบบดังกล่าวได้อย่างราบรื่น รองรับการให้บริการอย่างเป็นทางการได้ในเดือนมกราคม 2569 นอกจากนี้ ไทยอยู่ระหว่างการเจรจาให้สามารถรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยตนเองภายใต้กรอบความตกลงการค้าอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น FTA ไทย–เอฟตา, FTA ไทย–อียู และ FTA ไทย–เกาหลีใต้ เป็นต้น ซึ่งหากเจรจาสำเร็จและมีกฎหมายรองรับจะช่วยส่งเสริมการใช้สิทธิพิเศษทางการค้าเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองบริหารการนำเข้าและรับรองถิ่นกำเนิด กรมการค้าต่างประเทศ โทร. 02-5474808 และ 02-5475132 E-mail: importad@moc.go.th




 
 
		 





 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		
 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		
 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		 
 
		



 
	


